SlideShare una empresa de Scribd logo
1 de 7
กฎหมายมหาชนมีความเกี่ยวข้อง มีความสาคัญ กับการบริหารราชการแผ่นดินอย่างไร 
ข้อ 1. กฎหมายมหาชนคืออะไร มีความสาคัญกับศาสตร์อื่นเช่นรัฐศาสตร์และปรัชญาอย่างไร จงอธิบาย 
ธงคาตอบ 
กฎหมายมหาชน คือ กฎหมายที่กล่าวกาหนดถึงกฎเกณฑ์ทางกฎหมายทัง้ที่เกี่ยวข้องกับ สถานะ 
และ อานาจ ของรัฐและผู้ปกครองกับพลเมือง 
ผู้อยู่ใต้ปกครองในฐานะที่รัฐและผู้ปกครองมีเอกสิทธิ์ทางปกครองเหนือพลเมือง ซึ่งอยู่ในฐานะเป็นเอกชน 
ส่วนรัฐศาสตร์นัน้คือ ศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องของรัฐ อานาจ และการปกครอง รัฐศาสตร์เป็นวิชาที่เกี่ยวกับรัฐ 
กาเนิด และวิวัฒนาการของรัฐ รัฐในสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันและยังศึกษาองค์การทางการเมือง 
สถาบันทางปกครองตลอดจนในการปกครองรัฐ วิธีการดาเนินการต่างๆของรัฐ 
รวมทัง้แนวคิดทางการปกครองและการเมืองในรัฐด้วย 
กฎหมายมหาชนและรัฐเป็นศาสตร์ 2 ศาสตร์ ที่มีความสัมพันธ์กันอย่างมาก 
เพราะกฎหมายมหาชนจะศึกษา 
เรื่อง รัฐ อานาจของรัฐ รัฐธรรมนูญ และศึกษาสถาบันการเมืองของรัฐ ซึ่งก็ต้องเกี่ยวข้องกับรัฐศาสตร์ 
แต่อย่างไรก็ตาม กฎหมายมหาชนยังต้องศึกษาในด้านนิติศาสตร์อยู่อีกมาก 
ศึกษาบัญญัติของกฎหมายมิใช่เป็นการศึกษาทางรัฐศาสตร์ล้วนๆ 
กฎหมายมหาชนสัมพันธ์กับปรัชญา กล่าวคือ กฎหมายแต่ละอย่างจะมีปรัชญาที่แตกต่างกัน ปรัชญาของ 
กฎหมายเอกชน ปรัชญากฎหมายมหาชนเป็นต้น 
ดังนัน้ ปรัชญาซึ่งเป็นศาสตร์แห่งการวิเคราะห์ความรู้ยอดสรุปของวิชากฎหมายมหาชน 
จึงสัมพันธ์กับปรัชญา 
สาธารณประโยชน์หรือประโยชน์สาธารณะ และการประสานดุลภาพระหว่างประโยชน์สาธารณะ 
กับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของเอกชน 
ข้อ 2. จงทาตามคาสั่งต่อไปนี้ 
1) ยกตัวอย่างกฎหมายเอกชน 5 ฉบับ 
2) หน่วยงานทางปกครองได้แก่หน่วยงานใดบ้าง
3) เจ้าหน้าที่ของรัฐคือใคร 
4) การใช้อานาจทางปกครองมีลักษณะเป็นอย่างไร 
และจงอธิบายถึงความหมายสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายมหาชน หน่วยงานทางปกครอง เจ้าหน้าที่ของรัฐ 
การใช้ 
อานาจการปกครอง และศาลปกครอง 
ธงคาตอบ 
1) กฎหมายมหาชน ได้แก่ กฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฎหมายปกครอง ได้แก่ 
กฎหมายที่ดินและพระราชบัญญัติ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญต่างๆ เช่น 
พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยรามคาแหง พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการเลือกตัง้ เป็น 
ต้น 
2) หน่วยงานการปกครอง ได้แก่ 
- หน่วยงานในการบริหารราชการส่วนกลาง ได้แก่ กระทรวง ทบวง กรม มีสถานภาพเป็นนิติบุคคล 
- หน่วยงานในการบริหารราชการส่วนภูมิภาค ได้แก่ จังหวัด และอาเภอ จังหวัดเป็นนิติบุคคลแต่อาเภอไม่ 
เป็นนิติบุคคล 
- หน่วยงานในการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อ.บ.จ.) เทศบาล องค์การ 
บริหารส่วนตาบล (อ.บ.ต.) กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา 
- รัฐวิสาหกิจ เช่น ไฟฟ้า การประปา การรถไฟ ฯลฯ 
- หน่วยงานเอกชนที่ใช้อานาจหรือได้รับมอบหมายให้ใช้อานาจในทางปกครองตามกฎหมาย เช่น สภา 
ทนายความ สถานที่ตรวจสภาพรถยนต์ ฯลฯ 
3) เจ้าหน้าที่ของรัฐคือ บุคคล หรือคณะบุคคลที่ใช้อานาจหรือได้รับมอบให้ใช้อานาจในทางปกครองตาม 
กฎหมาย ได้แก่ ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่คณะกรรมการที่จัดตัง้ขึน้ตามกฎหมาย 
4) การใช้อานาจทางการปกครอง คือ การใช้อานาจของเจ้าหน้าที่รัฐอันทาให้เกิดความเปลี่ยนแปลง โอน 
สงวน หรือระงับต่อสถานภาพหรือสิทธิของบุคคลรวมทัง้การออกกฎออกคาสั่งด้วย
กฎหมายมหาชนเป็นกฎหมายที่บัญญัติให้อานาจหน้าที่ในทางปกครองแก่รัฐแก่หน่วยงานทางปกครองแล 
ะ 
แก่ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ดังนัน้ หน่วยงานทางปกครองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะดาเนินการใดๆ 
ได้จะต้องมีกฎหมายบัญญัติให้อานาจหน้าที่ไว้ 
ถ้าไม่มีกฎหมายบัญญัติให้อานาจหน้าที่ในการปกครองไว้ทาไม่ได้ และเมื่อดาเนินการใดๆ 
แล้วเกิดกรณีพิพาทจะเป็นกรณีพิพาททางปกครองจะต้องนาคดีไปฟ้องยังศาลปกครอง 
ข้อ 3. 
ให้นักศึกษาอธิบายความสัมพันธ์ของการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินการควบคุมการใช้อานาจ 
รัฐโดยละเอียด พร้อมยกตัวอย่างประกอบเพื่อให้เห็นความสัมพันธ์กันดังกล่าว 
ธงคาตอบ 
การบริหารราชการแผ่นดินของไทยเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายมหาชน คือ รัฐธรรมนูญ 
และ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องเช่น พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 
บัญญัติให้อานาจและหน้าที่ในทางปกครอง ได้จัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินเป็น 3 ส่วน คือ 
1, การจัดระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง ได้แก่ กระทรวง ทบวง กรม มีฐานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย 
2. การจัดระเบียบบริหารส่วนภุมิภาค ได้แก่ จังหวัดและอาเภอ กฎหมายบัญญัติให้จังหวัดเป็นนิติบุคคล 
ส่วนอาเภอไม่เป็นนิติบุคคล 
3. การจัดระเบียบบริหารส่วนท้องถิ่น ได้แก่ 
- องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อ.บ.จ.) 
- เทศบาล 
- องค์การบริหารส่วนตาบล (อ.บ.ต.) 
- เมืองพัทยา 
- กรุงเทพมหานคร 
การจัดระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่นเป็นการกระจายอานาจทางปกครองให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วน 
ร่วมในการปกครองตนเองตามความประสงค์ของประชาชนเอง
และการเกิดขึน้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนีเ้กิดขึน้จาก 
บทบัญญัติของกฎหมาย และกฎหมายที่ทาให้เกิดองค์กรดังกล่าวเป็นกฎหมายมหาชน ซึ่งได้แก่ 
- พ.ร.บ. องค์การบริหารส่วนจังหวัด 
- พ.ร.บ. เทศบาล 
- พ.ร.บ. สภาตาบล และองค์กรบริหารส่วนตาบล 
- พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร 
- พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา 
พระราชบัญญัติดังกล่าวนัน้เป็นกฎหมายที่บัญญัติให้อานาจหน้าที่ในทางปกครองและบริการสาธารณะแก่ 
องค์กรดังกล่าวซึ่งเป็นนิติบุคคลตามบทบัญญัติของกฎหมาย 
อานาจบังคับบัญชา กับ อานาจกากับการดูแล 
อานาจบังคับบัญชา คือ อานาจที่ผู้บังคับบัญชาใช้ปกครองผู้ใต้บังคับบัญชา เช่น รัฐมนตรี ใช้อานาจบังคับ 
บัญชา เหนือเจ้าหน้าที่ทัง้หลายในกระทรวง เป็นต้น เป็นอานาจที่ผู้บังคับบัญชาสามารถสั่งการใดๆ 
ก็ได้ตามที่ตนเห็นว่าเหมาะสม สามารถกลับ แก้ ยกเลิก เพิกถอน คาสั่งหรือการกระทาใดๆ 
ของผู้ใต้บังคับบัญชาได้เสมอ เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะเป็นประการอื่นทัง้นกี้ารใช้อานาจ 
บังคับบัญชาต้องชอบด้วยกฎหมาย ใช้ในทางที่เหมาะสม จะขัดต่อกฎหมายไม่ได้ 
ส่วน อานาจกากับดูแล นัน้ ไม่ใช่เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างผุ้บังคับบัญชากับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา 
แต่ เป็นความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกากับดูแลกับองค์กรภายใต้กากับดูแล เป็นอานาจที่มีเงื่อนไข 
กล่าวคือ จะใช้ได้ต่อเมื่อมีกฎหมายให้อานาจไว้ และต้องเป็นตามรูปแบบที่กฎหมายกาหนด 
ไม่มีอานาจสั่งการให้ปฏิบัติการตามที่ตนเห็นสมควร 
ทาได้แต่เพียงกากับดูแลให้ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามกฎหมายเท่านัน้ 
แต่ในบางกรณีองค์กรกากับดูแลอาจยกเลิก เพิกถอนหรือเข้าสั่งการแทนองค์กรภายใต้กากับดูแล 
แต่ก็เฉพาะกรณีที่กฎหมายยกเว้นไว้เท่านัน้ 
เพราะโดยหลักแล้วองค์กรกากับดูแลไม่มีอานาจที่จะกระทาเช่นนัน้ 
ความแตกต่างระหว่าง อานาจบังคับบัญชา กับ อานาจกากับดูแล
1) อานาจบังคับบัญชาเป็นอานาจทั่วไป ไม่จาเป็นต้องมีกฎหมายให้อานาจ เป็นอานาจที่ผู้บังคับบัญชาใช้ 
กับ ผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชาจึงสั่งการใดๆก็ได้ตามที่ตนเห็นว่าเหมาะสม คือสามารถปรับแก้ ยกเลิก 
เพิกถอนคาสั่งของผู้ใต้ บังคับบัญชาได้เสมอ เว้นแต่จะมีกฎหมายไว้เป็นอย่างอื่น 
แต่ในการใช้อานาจบังคับบัญชานัน้จะต้องชอบด้วยกฎหมาย 
ส่วนอานาจกากับดุแลนัน้เป็นอานาจที่มีเงื่อนไข 
ไม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับ 
บัญชา จะใช้อานาจได้ต่อเมื่อมีกฎหมายให้อานาจและต้องเป็นไปตามรูปแบบที่กฎหมาย กาหนดเท่านัน้ 
กล่าวคือกฎหมายจะกาหนดรูปแบบไว้ว่าใครจะเป็นผู้ใช้อานาจ เช่น 
การสั่งยุบสภาท้องถิ่นต้องมีรายงานเสนอจากผู้ว่าราชการจังหวัดขึน้ไป 
ดัง นัน้ อานาจยุบสภาท้องถิ่นจึงอยู่ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ฉะนัน้ 
ในการควบคุมกากับดูแลจึงไม่มีการสั่งการตามที่ผู้กากับดูแลนัน้เห็นสมควร 
แม้อาจมีบางกรณีที่ผู้กากับดูแลอาจจะยกเลิก เพิกถอนได้ แต่ก็ต้องมีเรื่องที่กฎหมายได้กาหนดไว้ 
2) อานาจบังคับบัญชาเป็นอานาจในระบบการการบริหารในนิติบุคคลหนึ่งๆ เช่น ภายในรัฐ หรือภายใน 
องค์ กระจายอานาจอื่นๆ เช่น ภายในเทศบาลเองก็มีอานาจบังคับบัญชา 
นายกเทศมนตรีสามารถออกคาสั่งหรือสั่งการใดๆที่ตนเห็นว่าเหมาะสมได้ 
ส่วนการบริหารภายในรัฐก็คือราชการบริหารส่วนกลาง 
เมื่อบริหารองค์กรที่อยู่ภายใต้อานาจในราชการบริหารส่วนกลางก็คือ กระทรวง ทบวง กรม นัน้ 
ก็ใช้อานาจบังคับบัญชาเช่นกัน 
อนึ่ง หลักการควบคุมการใช้อานาจรัฐ แบ่งได้ ดังนกี้ล่าวคือ 
- ระหว่างราชการส่วนกลางกับราชการส่วนภูมิภาค ใช้หลักการควบคุมบังคับบัญชา 
- ระหว่างราชการส่วนกลางและราชการส่วนภูมิภาคกับราชการส่วนท้องถิ่นใช้หลักการกากับดูแล 
ทัง้นี้การควบคุมการใช้อานาจรัฐ หรือฝ่ายปกครอง แบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้ 
(1) การควบคุมฝ่ายปกครองแบบป้องกัน (แบบก่อน) หมายถึง 
กฎหมายกาหนดกระบวนการต่างๆก่อนจะมี
การกระทาการปกครอง เพื่อคุ้มครองและให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมมากขึน้ 
กระบวนการควบคุมในกฎหมายต่างประเทศ มี 
ตัวอย่างเช่น 
- การโต้แย้งคัดค้าน 
ผู้ที่อาจเสียหายจากการกระทาของฝ่ายปกครองจะต้องสามารถแสดงข้อโต้แย้งของตน 
ได้ก่อนมีการกระทานัน้ เพื่อหลีกเลี่ยงการปกครองที่ดือ้ดึง 
-การปรึกษาหารือ เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจ 
-การให้เหตุผล เพื่อเป็นหลักประกันในการควบคุมการใช้ดุลพินิจของฝ่ายปกครอง 
-หลักการไม่มีส่วนได้เสีย ผู้มีอานาจสั่งการทางปกครองต้องไม่มีส่วนได้เสีย 
-การไต่สวนทวั่ไป เป็นวิธีการที่กาหนดให้ฝ่ายปกครองต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงโดยทาการรวบรวมความ 
คิดเห็นของบุคคลที่มีส่วนได้เสีย 
แล้วทาเป็นรายงานก่อนที่ฝ่ายปกครองจะตัดสินใจกระทาการที่จะมีผลกระทบผู้มีส่วนได้เสีย 
ประเทศไทยในปัจจุบันมี พ.ร.บ, วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 
กาหนดหลักเกณฑ์นเี้ป็นกฎหมาย 
กลาง แต่ก็มีกฎหมายเฉพาะที่อาจกาหนดหลักเกณฑ์เหล่านไี้ว้ในกฎหมายเฉพาะนัน้ด้วยก็ ได้ อนึ่งใน 
พ.ร.บ. วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 
มีหลักเกณฑ์ที่เป็นลักษณะของการแก้ไขอยู่ด้วยเช่นกัน เช่น การอุทธรณ์ภายใน เป็นต้น 
(2) การควบคุมฝ่ายปกครองแบบแก้ไข (แบบหลัง) หมายถึง 
การควบคุมตรวจสอบการใช้อานาจทางปกครอง หลังการใช้อานาจทางปกครองไปแล้วเรียกว่า การควบคุม 
แบบแก้ไข ซึ่งกระทาได้หลายวิธีดังนี้ 
2.1 การควบคุมโดยองค์กรภายในของฝ่ายบริหารเอง เช่น 
- การร้องทุกข์ การอุทธรณ์คาสั่งทางปกครอง 
2.2 การควบคุมองค์ภายนอกของฝ่ายบริหารเช่น 
- การควบคุมโดยทางการเมืองได้แก่การตัง้กระทู้ถาม การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ
- การควบคุมโดยองค์กรพิเศษได้แก่ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา 
- การควบคุมโดยศาลปกครอง 
การควบคุมแบบแก้ไขนเี้ป็นการใช้อานาจทางปกครองไปแล้ว 
และเกิดปัญหาจากการใช้อานาจทางปกครอง 
นัน้ขึน้ จึงต้องแก้ไขปัญหาด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งหรือหลายวิธีตามขัน้ตอนที่กฎหมายบัญญัติไว้ 
ระบบการควบคุมการใช้อานาจรัฐที่ดี ประกอบด้วย 
(1) ต้องครอบคลุมในกิจการของรัฐทุกด้านให้เป็นการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้อย่างทั่วถึง 
(2) เหมาะสมกับสภาพของกิจกรรมของรัฐที่ควบคุม (มีสมดุล) 
(3) องค์กรที่ทาหน้าที่ตรวจสอบนัน้ ๆ ต้องอิสระ และองค์กรนัน้ๆ จะต้องถูกตรวจสอบได้ 
(4) การเข้าถึงระบบการตรวจสอบควบคุมนตี้้องเป็นไปโดยกว้างขวาง 
สาหรับในด้านความสัมพันธ์ของการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินกับการควบคุมการใช้อานาจรัฐ นัน้ 
เป็น ไปดังนี้กล่าวคือ โดยเหตุที่หน่วยงานของรัฐมีบรรจุในราชการแผ่นดิน ทัง้ 3 ส่วน 
ไม่ว่าจะเป็นกระทรวง ทบวง กรม หรือจังหวัด อาเภอ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 
ดังนัน้ 
ทุกส่วนราชการจึงตกอยู่ภายใต้การควบคุมการใช้อานาจรัฐทัง้สิน้ซึ่งก็แล้วแต่กรณีว่าจะตกอยู่ภายใน 
การใช้อานาจ แบบใด ทัง้นกี้็เป็นไปตามเหตุผลดังกล่าวมาแล้วข้างต้น

Más contenido relacionado

La actualidad más candente

สถาบันทางการเมือง
สถาบันทางการเมืองสถาบันทางการเมือง
สถาบันทางการเมืองkroobannakakok
 
ชีทสรุปกฎหมายปกครองเบื้องต้น
ชีทสรุปกฎหมายปกครองเบื้องต้นชีทสรุปกฎหมายปกครองเบื้องต้น
ชีทสรุปกฎหมายปกครองเบื้องต้นMac Legendlaw
 
กฎหมาย
กฎหมายกฎหมาย
กฎหมายmarena06008
 
กฎหมายในชีวิตประจำวัน ครั้งที่ 2
กฎหมายในชีวิตประจำวัน  ครั้งที่ 2กฎหมายในชีวิตประจำวัน  ครั้งที่ 2
กฎหมายในชีวิตประจำวัน ครั้งที่ 2Andy Hung
 
ครั้งที่ 6
ครั้งที่ 6ครั้งที่ 6
ครั้งที่ 6AJ Por
 
ครั้งที่ 4
ครั้งที่ 4ครั้งที่ 4
ครั้งที่ 4AJ Por
 
กระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
กระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่กระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
กระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่Palida Sookjai
 
ระบบร่างกฎหมายไทย Is
ระบบร่างกฎหมายไทย Isระบบร่างกฎหมายไทย Is
ระบบร่างกฎหมายไทย IsLawsom
 
9789740329954
97897403299549789740329954
9789740329954CUPress
 
New งานนำเสนอ microsoft office power point
New งานนำเสนอ microsoft office power pointNew งานนำเสนอ microsoft office power point
New งานนำเสนอ microsoft office power pointPim Chainamon Puri
 
กฎหมายในชีวิตประจำวันครั้งที่ 11
กฎหมายในชีวิตประจำวันครั้งที่ 11กฎหมายในชีวิตประจำวันครั้งที่ 11
กฎหมายในชีวิตประจำวันครั้งที่ 11AJ Por
 
สรุปกฎหมายปกครองฉบับเข้าใจง่าย ข้อ 1
สรุปกฎหมายปกครองฉบับเข้าใจง่าย ข้อ 1สรุปกฎหมายปกครองฉบับเข้าใจง่าย ข้อ 1
สรุปกฎหมายปกครองฉบับเข้าใจง่าย ข้อ 1Puy Chappuis
 
New งานนำเสนอ microsoft office power point
New งานนำเสนอ microsoft office power pointNew งานนำเสนอ microsoft office power point
New งานนำเสนอ microsoft office power pointPim Chainamon Puri
 
ทฤษฎีระบบราชการ
ทฤษฎีระบบราชการทฤษฎีระบบราชการ
ทฤษฎีระบบราชการwiraja
 
กฎหมายที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ครั้งที่ 3
กฎหมายที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ครั้งที่ 3กฎหมายที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ครั้งที่ 3
กฎหมายที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ครั้งที่ 3AJ Por
 

La actualidad más candente (18)

สถาบันทางการเมือง
สถาบันทางการเมืองสถาบันทางการเมือง
สถาบันทางการเมือง
 
ชีทสรุปกฎหมายปกครองเบื้องต้น
ชีทสรุปกฎหมายปกครองเบื้องต้นชีทสรุปกฎหมายปกครองเบื้องต้น
ชีทสรุปกฎหมายปกครองเบื้องต้น
 
กฎหมาย
กฎหมายกฎหมาย
กฎหมาย
 
บทความ+ศา..
บทความ+ศา..บทความ+ศา..
บทความ+ศา..
 
กฎหมายในชีวิตประจำวัน ครั้งที่ 2
กฎหมายในชีวิตประจำวัน  ครั้งที่ 2กฎหมายในชีวิตประจำวัน  ครั้งที่ 2
กฎหมายในชีวิตประจำวัน ครั้งที่ 2
 
ครั้งที่ 6
ครั้งที่ 6ครั้งที่ 6
ครั้งที่ 6
 
ครั้งที่ 4
ครั้งที่ 4ครั้งที่ 4
ครั้งที่ 4
 
กระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
กระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่กระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
กระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
 
ระบบร่างกฎหมายไทย Is
ระบบร่างกฎหมายไทย Isระบบร่างกฎหมายไทย Is
ระบบร่างกฎหมายไทย Is
 
9789740329954
97897403299549789740329954
9789740329954
 
New งานนำเสนอ microsoft office power point
New งานนำเสนอ microsoft office power pointNew งานนำเสนอ microsoft office power point
New งานนำเสนอ microsoft office power point
 
กฎหมายในชีวิตประจำวันครั้งที่ 11
กฎหมายในชีวิตประจำวันครั้งที่ 11กฎหมายในชีวิตประจำวันครั้งที่ 11
กฎหมายในชีวิตประจำวันครั้งที่ 11
 
สรุปกฎหมายปกครองฉบับเข้าใจง่าย ข้อ 1
สรุปกฎหมายปกครองฉบับเข้าใจง่าย ข้อ 1สรุปกฎหมายปกครองฉบับเข้าใจง่าย ข้อ 1
สรุปกฎหมายปกครองฉบับเข้าใจง่าย ข้อ 1
 
Presentation3
Presentation3Presentation3
Presentation3
 
M1 unit 2
M1 unit 2M1 unit 2
M1 unit 2
 
New งานนำเสนอ microsoft office power point
New งานนำเสนอ microsoft office power pointNew งานนำเสนอ microsoft office power point
New งานนำเสนอ microsoft office power point
 
ทฤษฎีระบบราชการ
ทฤษฎีระบบราชการทฤษฎีระบบราชการ
ทฤษฎีระบบราชการ
 
กฎหมายที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ครั้งที่ 3
กฎหมายที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ครั้งที่ 3กฎหมายที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ครั้งที่ 3
กฎหมายที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ครั้งที่ 3
 

Similar a ข้อ 1

สมรรถนะ
สมรรถนะสมรรถนะ
สมรรถนะmarena06008
 
สรุปกฎหมายปกครองข้อ 1
สรุปกฎหมายปกครองข้อ 1สรุปกฎหมายปกครองข้อ 1
สรุปกฎหมายปกครองข้อ 1PolCriminalJustice
 
Power point การปฏิรูปการเมือง
Power point การปฏิรูปการเมืองPower point การปฏิรูปการเมือง
Power point การปฏิรูปการเมืองbunchai
 
๕ กฎหมายปกครองสิ่งแวดล้อม คำสั่งและการตรวจสอบ
๕ กฎหมายปกครองสิ่งแวดล้อม คำสั่งและการตรวจสอบ๕ กฎหมายปกครองสิ่งแวดล้อม คำสั่งและการตรวจสอบ
๕ กฎหมายปกครองสิ่งแวดล้อม คำสั่งและการตรวจสอบGreenJusticeKlassroom
 
107 กฎหมายปกครองสิ่งแวดล้อม คำสั่งและการตรวจสอบ
107 กฎหมายปกครองสิ่งแวดล้อม คำสั่งและการตรวจสอบ107 กฎหมายปกครองสิ่งแวดล้อม คำสั่งและการตรวจสอบ
107 กฎหมายปกครองสิ่งแวดล้อม คำสั่งและการตรวจสอบGreenJusticeKlassroom
 
การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญกับการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญกับการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญกับการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญกับการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญNanthapong Sornkaew
 
Public health and the constitution (1)
Public health and the constitution (1)Public health and the constitution (1)
Public health and the constitution (1)Medical Student, GCM
 
9789740331186
97897403311869789740331186
9789740331186CUPress
 
iyddddddบทความของ ดร
iyddddddบทความของ ดรiyddddddบทความของ ดร
iyddddddบทความของ ดรkhamaroon
 
กฎหมายในชีวิตประจำวัน ครั้งที่ 2
กฎหมายในชีวิตประจำวัน  ครั้งที่ 2กฎหมายในชีวิตประจำวัน  ครั้งที่ 2
กฎหมายในชีวิตประจำวัน ครั้งที่ 2AJ Por
 
ประมวลกฏหมายแพร่่งและพาณิชย์
ประมวลกฏหมายแพร่่งและพาณิชย์ประมวลกฏหมายแพร่่งและพาณิชย์
ประมวลกฏหมายแพร่่งและพาณิชย์maykai
 
การรักษาราชการแทน และการปฏิบัติราชการแทน
การรักษาราชการแทน และการปฏิบัติราชการแทนการรักษาราชการแทน และการปฏิบัติราชการแทน
การรักษาราชการแทน และการปฏิบัติราชการแทนWiroj Suknongbueng
 
การปกครองของไทย
การปกครองของไทยการปกครองของไทย
การปกครองของไทยsangworn
 
การปกครองของไทย
การปกครองของไทยการปกครองของไทย
การปกครองของไทยsangworn
 

Similar a ข้อ 1 (20)

สมรรถนะ
สมรรถนะสมรรถนะ
สมรรถนะ
 
สมรรถนะ
สมรรถนะสมรรถนะ
สมรรถนะ
 
สรุปกฎหมายปกครองข้อ 1
สรุปกฎหมายปกครองข้อ 1สรุปกฎหมายปกครองข้อ 1
สรุปกฎหมายปกครองข้อ 1
 
Power point การปฏิรูปการเมือง
Power point การปฏิรูปการเมืองPower point การปฏิรูปการเมือง
Power point การปฏิรูปการเมือง
 
๕ กฎหมายปกครองสิ่งแวดล้อม คำสั่งและการตรวจสอบ
๕ กฎหมายปกครองสิ่งแวดล้อม คำสั่งและการตรวจสอบ๕ กฎหมายปกครองสิ่งแวดล้อม คำสั่งและการตรวจสอบ
๕ กฎหมายปกครองสิ่งแวดล้อม คำสั่งและการตรวจสอบ
 
107 กฎหมายปกครองสิ่งแวดล้อม คำสั่งและการตรวจสอบ
107 กฎหมายปกครองสิ่งแวดล้อม คำสั่งและการตรวจสอบ107 กฎหมายปกครองสิ่งแวดล้อม คำสั่งและการตรวจสอบ
107 กฎหมายปกครองสิ่งแวดล้อม คำสั่งและการตรวจสอบ
 
การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญกับการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญกับการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญกับการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญกับการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
 
ส่งงานค่ะ ~
ส่งงานค่ะ ~ ส่งงานค่ะ ~
ส่งงานค่ะ ~
 
Public health and the constitution (1)
Public health and the constitution (1)Public health and the constitution (1)
Public health and the constitution (1)
 
9789740331186
97897403311869789740331186
9789740331186
 
Soc
SocSoc
Soc
 
iyddddddบทความของ ดร
iyddddddบทความของ ดรiyddddddบทความของ ดร
iyddddddบทความของ ดร
 
Political reform
Political reformPolitical reform
Political reform
 
รพ.สต.ปี 2554 6 ชม.
รพ.สต.ปี 2554   6 ชม.รพ.สต.ปี 2554   6 ชม.
รพ.สต.ปี 2554 6 ชม.
 
กฎหมายในชีวิตประจำวัน ครั้งที่ 2
กฎหมายในชีวิตประจำวัน  ครั้งที่ 2กฎหมายในชีวิตประจำวัน  ครั้งที่ 2
กฎหมายในชีวิตประจำวัน ครั้งที่ 2
 
ประมวลกฏหมายแพร่่งและพาณิชย์
ประมวลกฏหมายแพร่่งและพาณิชย์ประมวลกฏหมายแพร่่งและพาณิชย์
ประมวลกฏหมายแพร่่งและพาณิชย์
 
กฎหมาย
กฎหมายกฎหมาย
กฎหมาย
 
การรักษาราชการแทน และการปฏิบัติราชการแทน
การรักษาราชการแทน และการปฏิบัติราชการแทนการรักษาราชการแทน และการปฏิบัติราชการแทน
การรักษาราชการแทน และการปฏิบัติราชการแทน
 
การปกครองของไทย
การปกครองของไทยการปกครองของไทย
การปกครองของไทย
 
การปกครองของไทย
การปกครองของไทยการปกครองของไทย
การปกครองของไทย
 

ข้อ 1

  • 1. กฎหมายมหาชนมีความเกี่ยวข้อง มีความสาคัญ กับการบริหารราชการแผ่นดินอย่างไร ข้อ 1. กฎหมายมหาชนคืออะไร มีความสาคัญกับศาสตร์อื่นเช่นรัฐศาสตร์และปรัชญาอย่างไร จงอธิบาย ธงคาตอบ กฎหมายมหาชน คือ กฎหมายที่กล่าวกาหนดถึงกฎเกณฑ์ทางกฎหมายทัง้ที่เกี่ยวข้องกับ สถานะ และ อานาจ ของรัฐและผู้ปกครองกับพลเมือง ผู้อยู่ใต้ปกครองในฐานะที่รัฐและผู้ปกครองมีเอกสิทธิ์ทางปกครองเหนือพลเมือง ซึ่งอยู่ในฐานะเป็นเอกชน ส่วนรัฐศาสตร์นัน้คือ ศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องของรัฐ อานาจ และการปกครอง รัฐศาสตร์เป็นวิชาที่เกี่ยวกับรัฐ กาเนิด และวิวัฒนาการของรัฐ รัฐในสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันและยังศึกษาองค์การทางการเมือง สถาบันทางปกครองตลอดจนในการปกครองรัฐ วิธีการดาเนินการต่างๆของรัฐ รวมทัง้แนวคิดทางการปกครองและการเมืองในรัฐด้วย กฎหมายมหาชนและรัฐเป็นศาสตร์ 2 ศาสตร์ ที่มีความสัมพันธ์กันอย่างมาก เพราะกฎหมายมหาชนจะศึกษา เรื่อง รัฐ อานาจของรัฐ รัฐธรรมนูญ และศึกษาสถาบันการเมืองของรัฐ ซึ่งก็ต้องเกี่ยวข้องกับรัฐศาสตร์ แต่อย่างไรก็ตาม กฎหมายมหาชนยังต้องศึกษาในด้านนิติศาสตร์อยู่อีกมาก ศึกษาบัญญัติของกฎหมายมิใช่เป็นการศึกษาทางรัฐศาสตร์ล้วนๆ กฎหมายมหาชนสัมพันธ์กับปรัชญา กล่าวคือ กฎหมายแต่ละอย่างจะมีปรัชญาที่แตกต่างกัน ปรัชญาของ กฎหมายเอกชน ปรัชญากฎหมายมหาชนเป็นต้น ดังนัน้ ปรัชญาซึ่งเป็นศาสตร์แห่งการวิเคราะห์ความรู้ยอดสรุปของวิชากฎหมายมหาชน จึงสัมพันธ์กับปรัชญา สาธารณประโยชน์หรือประโยชน์สาธารณะ และการประสานดุลภาพระหว่างประโยชน์สาธารณะ กับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของเอกชน ข้อ 2. จงทาตามคาสั่งต่อไปนี้ 1) ยกตัวอย่างกฎหมายเอกชน 5 ฉบับ 2) หน่วยงานทางปกครองได้แก่หน่วยงานใดบ้าง
  • 2. 3) เจ้าหน้าที่ของรัฐคือใคร 4) การใช้อานาจทางปกครองมีลักษณะเป็นอย่างไร และจงอธิบายถึงความหมายสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายมหาชน หน่วยงานทางปกครอง เจ้าหน้าที่ของรัฐ การใช้ อานาจการปกครอง และศาลปกครอง ธงคาตอบ 1) กฎหมายมหาชน ได้แก่ กฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฎหมายปกครอง ได้แก่ กฎหมายที่ดินและพระราชบัญญัติ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญต่างๆ เช่น พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยรามคาแหง พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการเลือกตัง้ เป็น ต้น 2) หน่วยงานการปกครอง ได้แก่ - หน่วยงานในการบริหารราชการส่วนกลาง ได้แก่ กระทรวง ทบวง กรม มีสถานภาพเป็นนิติบุคคล - หน่วยงานในการบริหารราชการส่วนภูมิภาค ได้แก่ จังหวัด และอาเภอ จังหวัดเป็นนิติบุคคลแต่อาเภอไม่ เป็นนิติบุคคล - หน่วยงานในการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อ.บ.จ.) เทศบาล องค์การ บริหารส่วนตาบล (อ.บ.ต.) กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา - รัฐวิสาหกิจ เช่น ไฟฟ้า การประปา การรถไฟ ฯลฯ - หน่วยงานเอกชนที่ใช้อานาจหรือได้รับมอบหมายให้ใช้อานาจในทางปกครองตามกฎหมาย เช่น สภา ทนายความ สถานที่ตรวจสภาพรถยนต์ ฯลฯ 3) เจ้าหน้าที่ของรัฐคือ บุคคล หรือคณะบุคคลที่ใช้อานาจหรือได้รับมอบให้ใช้อานาจในทางปกครองตาม กฎหมาย ได้แก่ ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่คณะกรรมการที่จัดตัง้ขึน้ตามกฎหมาย 4) การใช้อานาจทางการปกครอง คือ การใช้อานาจของเจ้าหน้าที่รัฐอันทาให้เกิดความเปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับต่อสถานภาพหรือสิทธิของบุคคลรวมทัง้การออกกฎออกคาสั่งด้วย
  • 3. กฎหมายมหาชนเป็นกฎหมายที่บัญญัติให้อานาจหน้าที่ในทางปกครองแก่รัฐแก่หน่วยงานทางปกครองแล ะ แก่ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ดังนัน้ หน่วยงานทางปกครองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะดาเนินการใดๆ ได้จะต้องมีกฎหมายบัญญัติให้อานาจหน้าที่ไว้ ถ้าไม่มีกฎหมายบัญญัติให้อานาจหน้าที่ในการปกครองไว้ทาไม่ได้ และเมื่อดาเนินการใดๆ แล้วเกิดกรณีพิพาทจะเป็นกรณีพิพาททางปกครองจะต้องนาคดีไปฟ้องยังศาลปกครอง ข้อ 3. ให้นักศึกษาอธิบายความสัมพันธ์ของการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินการควบคุมการใช้อานาจ รัฐโดยละเอียด พร้อมยกตัวอย่างประกอบเพื่อให้เห็นความสัมพันธ์กันดังกล่าว ธงคาตอบ การบริหารราชการแผ่นดินของไทยเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายมหาชน คือ รัฐธรรมนูญ และ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องเช่น พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 บัญญัติให้อานาจและหน้าที่ในทางปกครอง ได้จัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินเป็น 3 ส่วน คือ 1, การจัดระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง ได้แก่ กระทรวง ทบวง กรม มีฐานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย 2. การจัดระเบียบบริหารส่วนภุมิภาค ได้แก่ จังหวัดและอาเภอ กฎหมายบัญญัติให้จังหวัดเป็นนิติบุคคล ส่วนอาเภอไม่เป็นนิติบุคคล 3. การจัดระเบียบบริหารส่วนท้องถิ่น ได้แก่ - องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อ.บ.จ.) - เทศบาล - องค์การบริหารส่วนตาบล (อ.บ.ต.) - เมืองพัทยา - กรุงเทพมหานคร การจัดระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่นเป็นการกระจายอานาจทางปกครองให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วน ร่วมในการปกครองตนเองตามความประสงค์ของประชาชนเอง
  • 4. และการเกิดขึน้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนีเ้กิดขึน้จาก บทบัญญัติของกฎหมาย และกฎหมายที่ทาให้เกิดองค์กรดังกล่าวเป็นกฎหมายมหาชน ซึ่งได้แก่ - พ.ร.บ. องค์การบริหารส่วนจังหวัด - พ.ร.บ. เทศบาล - พ.ร.บ. สภาตาบล และองค์กรบริหารส่วนตาบล - พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร - พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา พระราชบัญญัติดังกล่าวนัน้เป็นกฎหมายที่บัญญัติให้อานาจหน้าที่ในทางปกครองและบริการสาธารณะแก่ องค์กรดังกล่าวซึ่งเป็นนิติบุคคลตามบทบัญญัติของกฎหมาย อานาจบังคับบัญชา กับ อานาจกากับการดูแล อานาจบังคับบัญชา คือ อานาจที่ผู้บังคับบัญชาใช้ปกครองผู้ใต้บังคับบัญชา เช่น รัฐมนตรี ใช้อานาจบังคับ บัญชา เหนือเจ้าหน้าที่ทัง้หลายในกระทรวง เป็นต้น เป็นอานาจที่ผู้บังคับบัญชาสามารถสั่งการใดๆ ก็ได้ตามที่ตนเห็นว่าเหมาะสม สามารถกลับ แก้ ยกเลิก เพิกถอน คาสั่งหรือการกระทาใดๆ ของผู้ใต้บังคับบัญชาได้เสมอ เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะเป็นประการอื่นทัง้นกี้ารใช้อานาจ บังคับบัญชาต้องชอบด้วยกฎหมาย ใช้ในทางที่เหมาะสม จะขัดต่อกฎหมายไม่ได้ ส่วน อานาจกากับดูแล นัน้ ไม่ใช่เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างผุ้บังคับบัญชากับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา แต่ เป็นความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกากับดูแลกับองค์กรภายใต้กากับดูแล เป็นอานาจที่มีเงื่อนไข กล่าวคือ จะใช้ได้ต่อเมื่อมีกฎหมายให้อานาจไว้ และต้องเป็นตามรูปแบบที่กฎหมายกาหนด ไม่มีอานาจสั่งการให้ปฏิบัติการตามที่ตนเห็นสมควร ทาได้แต่เพียงกากับดูแลให้ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามกฎหมายเท่านัน้ แต่ในบางกรณีองค์กรกากับดูแลอาจยกเลิก เพิกถอนหรือเข้าสั่งการแทนองค์กรภายใต้กากับดูแล แต่ก็เฉพาะกรณีที่กฎหมายยกเว้นไว้เท่านัน้ เพราะโดยหลักแล้วองค์กรกากับดูแลไม่มีอานาจที่จะกระทาเช่นนัน้ ความแตกต่างระหว่าง อานาจบังคับบัญชา กับ อานาจกากับดูแล
  • 5. 1) อานาจบังคับบัญชาเป็นอานาจทั่วไป ไม่จาเป็นต้องมีกฎหมายให้อานาจ เป็นอานาจที่ผู้บังคับบัญชาใช้ กับ ผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชาจึงสั่งการใดๆก็ได้ตามที่ตนเห็นว่าเหมาะสม คือสามารถปรับแก้ ยกเลิก เพิกถอนคาสั่งของผู้ใต้ บังคับบัญชาได้เสมอ เว้นแต่จะมีกฎหมายไว้เป็นอย่างอื่น แต่ในการใช้อานาจบังคับบัญชานัน้จะต้องชอบด้วยกฎหมาย ส่วนอานาจกากับดุแลนัน้เป็นอานาจที่มีเงื่อนไข ไม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับ บัญชา จะใช้อานาจได้ต่อเมื่อมีกฎหมายให้อานาจและต้องเป็นไปตามรูปแบบที่กฎหมาย กาหนดเท่านัน้ กล่าวคือกฎหมายจะกาหนดรูปแบบไว้ว่าใครจะเป็นผู้ใช้อานาจ เช่น การสั่งยุบสภาท้องถิ่นต้องมีรายงานเสนอจากผู้ว่าราชการจังหวัดขึน้ไป ดัง นัน้ อานาจยุบสภาท้องถิ่นจึงอยู่ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ฉะนัน้ ในการควบคุมกากับดูแลจึงไม่มีการสั่งการตามที่ผู้กากับดูแลนัน้เห็นสมควร แม้อาจมีบางกรณีที่ผู้กากับดูแลอาจจะยกเลิก เพิกถอนได้ แต่ก็ต้องมีเรื่องที่กฎหมายได้กาหนดไว้ 2) อานาจบังคับบัญชาเป็นอานาจในระบบการการบริหารในนิติบุคคลหนึ่งๆ เช่น ภายในรัฐ หรือภายใน องค์ กระจายอานาจอื่นๆ เช่น ภายในเทศบาลเองก็มีอานาจบังคับบัญชา นายกเทศมนตรีสามารถออกคาสั่งหรือสั่งการใดๆที่ตนเห็นว่าเหมาะสมได้ ส่วนการบริหารภายในรัฐก็คือราชการบริหารส่วนกลาง เมื่อบริหารองค์กรที่อยู่ภายใต้อานาจในราชการบริหารส่วนกลางก็คือ กระทรวง ทบวง กรม นัน้ ก็ใช้อานาจบังคับบัญชาเช่นกัน อนึ่ง หลักการควบคุมการใช้อานาจรัฐ แบ่งได้ ดังนกี้ล่าวคือ - ระหว่างราชการส่วนกลางกับราชการส่วนภูมิภาค ใช้หลักการควบคุมบังคับบัญชา - ระหว่างราชการส่วนกลางและราชการส่วนภูมิภาคกับราชการส่วนท้องถิ่นใช้หลักการกากับดูแล ทัง้นี้การควบคุมการใช้อานาจรัฐ หรือฝ่ายปกครอง แบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้ (1) การควบคุมฝ่ายปกครองแบบป้องกัน (แบบก่อน) หมายถึง กฎหมายกาหนดกระบวนการต่างๆก่อนจะมี
  • 6. การกระทาการปกครอง เพื่อคุ้มครองและให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมมากขึน้ กระบวนการควบคุมในกฎหมายต่างประเทศ มี ตัวอย่างเช่น - การโต้แย้งคัดค้าน ผู้ที่อาจเสียหายจากการกระทาของฝ่ายปกครองจะต้องสามารถแสดงข้อโต้แย้งของตน ได้ก่อนมีการกระทานัน้ เพื่อหลีกเลี่ยงการปกครองที่ดือ้ดึง -การปรึกษาหารือ เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจ -การให้เหตุผล เพื่อเป็นหลักประกันในการควบคุมการใช้ดุลพินิจของฝ่ายปกครอง -หลักการไม่มีส่วนได้เสีย ผู้มีอานาจสั่งการทางปกครองต้องไม่มีส่วนได้เสีย -การไต่สวนทวั่ไป เป็นวิธีการที่กาหนดให้ฝ่ายปกครองต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงโดยทาการรวบรวมความ คิดเห็นของบุคคลที่มีส่วนได้เสีย แล้วทาเป็นรายงานก่อนที่ฝ่ายปกครองจะตัดสินใจกระทาการที่จะมีผลกระทบผู้มีส่วนได้เสีย ประเทศไทยในปัจจุบันมี พ.ร.บ, วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 กาหนดหลักเกณฑ์นเี้ป็นกฎหมาย กลาง แต่ก็มีกฎหมายเฉพาะที่อาจกาหนดหลักเกณฑ์เหล่านไี้ว้ในกฎหมายเฉพาะนัน้ด้วยก็ ได้ อนึ่งใน พ.ร.บ. วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มีหลักเกณฑ์ที่เป็นลักษณะของการแก้ไขอยู่ด้วยเช่นกัน เช่น การอุทธรณ์ภายใน เป็นต้น (2) การควบคุมฝ่ายปกครองแบบแก้ไข (แบบหลัง) หมายถึง การควบคุมตรวจสอบการใช้อานาจทางปกครอง หลังการใช้อานาจทางปกครองไปแล้วเรียกว่า การควบคุม แบบแก้ไข ซึ่งกระทาได้หลายวิธีดังนี้ 2.1 การควบคุมโดยองค์กรภายในของฝ่ายบริหารเอง เช่น - การร้องทุกข์ การอุทธรณ์คาสั่งทางปกครอง 2.2 การควบคุมองค์ภายนอกของฝ่ายบริหารเช่น - การควบคุมโดยทางการเมืองได้แก่การตัง้กระทู้ถาม การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ
  • 7. - การควบคุมโดยองค์กรพิเศษได้แก่ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา - การควบคุมโดยศาลปกครอง การควบคุมแบบแก้ไขนเี้ป็นการใช้อานาจทางปกครองไปแล้ว และเกิดปัญหาจากการใช้อานาจทางปกครอง นัน้ขึน้ จึงต้องแก้ไขปัญหาด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งหรือหลายวิธีตามขัน้ตอนที่กฎหมายบัญญัติไว้ ระบบการควบคุมการใช้อานาจรัฐที่ดี ประกอบด้วย (1) ต้องครอบคลุมในกิจการของรัฐทุกด้านให้เป็นการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้อย่างทั่วถึง (2) เหมาะสมกับสภาพของกิจกรรมของรัฐที่ควบคุม (มีสมดุล) (3) องค์กรที่ทาหน้าที่ตรวจสอบนัน้ ๆ ต้องอิสระ และองค์กรนัน้ๆ จะต้องถูกตรวจสอบได้ (4) การเข้าถึงระบบการตรวจสอบควบคุมนตี้้องเป็นไปโดยกว้างขวาง สาหรับในด้านความสัมพันธ์ของการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินกับการควบคุมการใช้อานาจรัฐ นัน้ เป็น ไปดังนี้กล่าวคือ โดยเหตุที่หน่วยงานของรัฐมีบรรจุในราชการแผ่นดิน ทัง้ 3 ส่วน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวง ทบวง กรม หรือจังหวัด อาเภอ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดังนัน้ ทุกส่วนราชการจึงตกอยู่ภายใต้การควบคุมการใช้อานาจรัฐทัง้สิน้ซึ่งก็แล้วแต่กรณีว่าจะตกอยู่ภายใน การใช้อานาจ แบบใด ทัง้นกี้็เป็นไปตามเหตุผลดังกล่าวมาแล้วข้างต้น