More Related Content
Similar to ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Similar to ความหมายและความสำคัญของโครงงาน (20)
More from Freshsica Chunyanuch
More from Freshsica Chunyanuch (13)
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
- 2. โครงงาน (Project Approach) คือ กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ ผู้เรียนได้
ทําการศึกษาค้นคว้าและฝึกปฏิบัติด้วยตนเองตามความสามารถ ความถนัด และความสนใจ โดยอาศัย
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือกระบวนการอื่นๆ ไปใช้ในการศึกษาหาคําตอบ โดยมีครูผู้สอนคอยกระตุ้น
แนะนําและให้คําปรึกษาแก่ผู้เรียนอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การเลือกหัวข้อที่จะศึกษา ค้นคว้า ดําเนินงานตามแผน
กําหนดขั้นตอนการดําเนินงานและการนําเสนอผลงาน ซึ่งอาจทําเป็นบุคคลหรือเป็นกลุ่ม
โครงงาน คือ การศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือหลายๆสิ่งที่อยากรู้คําตอบให้ลึกซึ้ง
หรือเรียนรู้ในเรื่องนั้นๆให้มากขึ้น โดยใช้กระบวนการ วิธีการที่ศึกษาอย่างมีระบบ เป็นขั้นตอน
มีการวางแผนในการศึกษาอย่างละเอียด ปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้ จนได้ข้อสรุปหรือผลสรุปที่เป็นคําตอบใน
เรื่องนั้นๆ
อ้างอิง
http://tc.mengrai.ac.th/kruyuy/e-
learning/project/unit1/01_1.html
- 3. ความสําคัญของโครงงาน ในแง่ของการเรียนการสอน และจัดกิจกรรมเสริมตามหลัก
สูตรมัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศักราช 2521 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2533) มีดังนี้
1.ด้านนักเรียน ก่อให้เกิดคุณค่าต่างๆ ดังนี้
1.1 ช่วยสร้างความหวังใหม่ในการริเริ่มงาน ที่จะนําไปสู่อาชีพ และการศึกษาต่อ ที่ตนเองมีความถนัดและสนใจ
1.2 สร้างเสริมประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง ด้วยชีวิตจริง ส่งผลให้เกิดความเข้าใจอย่างซาบซึ้ง ในโครงงานที่สร้างสรรค์ขึ้นมา
2.ด้านโรงเรียน และ ครู-อาจารย์ ก่อให้เกิดคุณค่าต่าง ๆ ดังนี้
2.1 เกิดการประสานงานทางวิชาการที่ผสมผสาน หรือ บูรณการเกิดขึ้นใน โรงเรียน ตรงกับหลักสูตรมัธยมศึกษา และแนวทางพัฒนา
การศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ
2.2 เกิดความเข้าใจที่ตรงกันว่า การเรียนการสอนในปัจจุบันขึ้นอยู่กับการฝึกปฏิบัติจริง ในโครงงานของนักเรียนมากกว่าที่จะเรียนอยู่แต่
ในห้องเรียนเท่านั้น
3. ด้านท้องถิ่น ก่อให้เกิดคุณค่าต่าง ๆ ดังนี้
3.1 การเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ความรู้ ผลงานในเชิงปฏิบัติของโครงงาน ที่ ประสบผลสําเร็จไปสู่ท้องถิ่น ทําให้ท้องถิ่นกับโรงเรียนมี
ความเข้าใจ และประสานสัมพันธ์กันดียิ่ง
3.2 ช่วยลดปัญหาวันรุ่นในท้องถิ่นเกี่ยวกับความประพฤติ จรรยามารยาท และศีลธรรม เพราะนักเรียนที่มีโครงงานมักจะเป็นนักเรียนที่มี
ความประพฤติดีมุ่งมั่น และสนใจการศึกษาเล่าเรียนเท่านั้น
อ้างอิง http://www.gotoknow.org/posts/314097
- 5. ดําเนินงานโดยนักเรียนเป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ และครูอาจารย์เป็นผู้ให้คาแนะนาปรึกษา สรุปคือ
1. เป็นกิจกรรมการศึกษาทีให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติด้วย
ตนเอง โดยอาศัย หลักวิชา การทางทฤษฎี ตามเนื้อหาโครงสร้างงาน
นั้น ๆ หรือจากประสบการณ์ และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมาแล้ว
2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็น
กลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้น ๆ เป็นภาคเรียนหรือมากกว่าก็ได้
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงาน ที่
จะศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติด้วย ตนเอง ตามความถนัด สนใจและความพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน
แผนปฏิบัติงาน และการ แปรผล รายงานต่อครูอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อ
ดาเนินงานร่วมกัน ให้บรรลุตามจุดหมาย ที่กําหนด ไว้
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของ
นักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
ขอบเขตโครงงาน
อ้างอิง http://www.slideshare.net/tanyapornputtawan/3-13778586
- 6. ประเภทของโครงงาน แบ่งออกเป็น 4 ประเภท
อ้างอิง http://school.obec.go.th/suplopburi/bussiness-M.S.5/project2.html
1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา
เช่น โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์
2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็นโครงงานที่สร้างเครื่องมือ ใช้สร้างงาน ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูป
ของซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป
3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการทดลอง
ของสาขาต่างๆ
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานในชีวิตประจําวัน
5. โครงงานพัฒนาเกม เพื่อความรู้ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก
- 8. อ้างอิง http://www.slideshare.net/aoyammmee1/ss-13752407
ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อ
การศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บท
ทบทวน และคําถามคําตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดย
ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียน
แบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้
ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการ
พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัว
แปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สําคัญของประเทศไทย เป็นต้น
- 11. เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเรื่องมือมาใช้ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่าง ๆ ซึ่งโดย
ส่วนใหญ่จะเป็นในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครื่องมือช่วยงาน เช่น ซอฟต์แวร์วาด
รูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ เป็นต้น สําหรับ
ซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลผลภาษา ซึ่งจะเป็น
เครื่องมือให้เราใช้งานในงานพิมพ์ต่าง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้โดยง่าย ซึ่ง
รูปที่ได้สามารถนําไปใช้งานต่าง ๆ ได้มากมาย สําหรับซอฟต์แวร์ช่วยในการมองวัตถุ
ในมุมต่าง ๆ ใช้สําหรับช่วยในการออกแบบสิ่งของต่าง ๆ เช่น โปรแกรมประเภท 3D
อ้างอิง http://toffykz.blogspot.com/2012/08/5.html
- 14. เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจําลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่
สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทําต้อง
ศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษา
แล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจําลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคําอธิบาย พร้อม
ทั้งการจําลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือ
สมการนั้น ซึ่งจะทําให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทําโครงงานประเภทนี้มีจุดสําคัญอยู่ที่
ผู้ทําต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจําลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่อง
การไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็น
วัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
อ้างอิง http://lookkedd.blogspot.com/2012/08/6.html
- 15. อ้างอิง http://www.slideshare.net/mcf_cnx1/ss-14040037
1. การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเลี้ยงปลานิลด้วยคอมพิวเตอร์
2. การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเพาะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์
3. การทดลองผสมสารเคมีต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์
4. ปัจจัยต่างๆ กับการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน
5. ผลการปลูกข้าวในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน
6. โปรแกรมสังเคราะห์เสียงพูดเบื้องต้น
7. โปรแกรมจําลองการทํางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
- 20. อ้างอิง http://www.slideshare.net/namphonsrikham/8-14120069
โครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์เพื่อความรู้ ความเพลิดเพลิน เช่น เกม
หมากรุก โปรแกรม ต่อให้เพิ่ม เติมให้เต็ม (Magic Puzzle) โปรแกรม เกมผู้รอดชีวิต โปรแกรม
เกมทศกัณฑ์ เกมทายคําศัพท์ และเกมการคํานวณเลข เป็นต้น ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้
เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกความคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการ
ออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไป
ด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทําการสํารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนํามา
ปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่างๆเช่น