SlideShare una empresa de Scribd logo
1 de 41
โครงการ
เรื่อง จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
จัดทําโดย
1. นายจิตติ ทุมเชียงลา เลขที่ 1
2. นางสาวไอรินทร์ นิธิภัทร์พรปัญญา เลขที่ 14
3. นางสาวปณิดา ธนกิจ เลขที่ 15
4. นางสาวลาภิศ อุทาทิย์ เลขที่ 18
5. นางสาวสุปราณี บุญมี เลขที่ 19
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1
เสนอ
คุณครูทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม
รายวิชา I30903 IS3 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์กาญจนบุรี
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา
2558
ก
กิตติกรรมประกาศ
โครงการนี้ส่วนหนึ่งของรายวิชาIS3ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
เพื่อช่วยทาให้วัดมีความสะอาดสวยงามน่าเข้ามาทาบุญ และได้จัดทาโครงการ
ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม โดย ทากิจกรรมผ่านกิจกรรมจิตอาสาเพื่อให้นักเรียนมีคุณธรรม
และสามารถดารงชีวิตอยู่ในสังคม อยู่ได้โดยสงบสุข ทั้งนี้ ในรายงานนี้มี เนื้อหา
ประกอบด้วยการดาเนินกิจกรรมจิตอาสาในโครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
ผู้จัดทาได้เลือกหัวข้อนี้ในการทากิจกรรมจิตอาสาเนื่องมาจากเป็นเรื่องที่น่าสนใจ
ในการที่จะช่วยเหลือสังคม
ผู้จัดทาต้องขอขอบคุณ คุณครูทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยมผู้ให้ความรู้ และ แนวทางการศึกษา
คุณเดชชนะ สัมมาทิตฐิที่ให้ความช่วยเหลือในเรื่องการเดินทางไป-กลับ
ระหว่างห้วยสะพานและวัดบ้านหลุมหิน
คุณปาลีรัตน์ นิธิภัทร์พรปัญญา
ที่ให้ความช่วยเหลือในเรื่องของการทาความสะอาดบริเวณศาลาวัด
และขอขอบคุณคุณเสวย สัมมาทิตฐิที่ให้ความอนุเคราะห์ในด้านอุปกรณ์การทาความสะอาด
หวังว่ารายงานฉบับนี้ จะให้ความรู้ และ เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน
หากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้จัดทาขอรับไว้ด้วยความขอบพระคุณยิ่ง
และหากมีข้อข้อผิดพลาดประการใดผู้จัดทาขออภัย มาณที่นี้ ด้วย
คณะผู้จัดทา
ข
บทคัดย่อ
เรื่อง จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ IS3
ผู้จัดทํา
นายจิตติ ทุมเชียงลา
นางสาวไอรินทร์ นิธิภัทร์พรปัญญา
นางสาวปณิดา ธนกิจ
นางสาวลาภิศ อุทาทิพย์
นางสาวสุปราณี บุญมี
ครูที่ปรึกษา
ครูทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม
สถานศึกษา
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี
ปีการศึกษา 2558
สารบัญ
เรื่อง หน้า
กิตติกรรมประกาศ.....................................................................................................................ก
บทคัดย่อ....................................................................................................................................ข
บทที่ 1 บทนา..............................................................................................................................1
หลักการและเหตุผล................................................................................................................1
การบูรณาการกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง.............................................................................1
วัตถุประสงค์ของโครงการ......................................................................................................1
สถานที่ดาเนินการ...................................................................................................................2
ขั้นตอนการดาเนินงาน............................................................................................................2
ระยะเวลาดาเนินงาน...............................................................................................................2
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ.....................................................................................................2
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง ..........................................................................................................3
จิตอาสา...................................................................................................................................3
วัด...........................................................................................................................................4
ข้อควรปฏิบัติในการไปวัดไทย...............................................................................................5
ความสาคัญของพระพุทธศาสนาต่อสังคมไทย........................................................................5
บทที่ 3 วิธีการดาเนินงาน.........................................................................................................15
วัสดุอุปกรณ์..........................................................................................................................15
วิธีการดาเนินงาน..................................................................................................................16
บทที่ 4 ผลการดาเนินงาน..........................................................................................................19
บทที่ 5 สรุปผลและอภิปราย.....................................................................................................20
อภิปรายผลการดาเนินงาน.....................................................................................................21
ข้อเสนอแนะ.........................................................................................................................21
ภาคผนวก.................................................................................................................................22
บรรณานุกรม.............................................................................................................................ค
สารบัญรูปภาพ
รูปภาพ หน้า
3.1เดินเข้าไปที่วัดห้วยสะพาน………………………….………...…………………15
3.2 เดินเข้าไปที่วัดห้วยสะพาน………………….………………...…………………15
3.3 รอน้ามารับไปวัดบ้านหลุมหิน…………...………………………………………15
3.4 เดินทางไปวัดบ้านหลุมหิน………………………………….…………………………16
.3.5 เริ่มทาความสะอาด…………………………………………………….………………16
3.6 เริ่มทาความสะอาด…………………………………………………….………………16
3.7 เริ่มทาความสะอาด…………………………………………………….………………16
3.8 เดินทางกลับบ้านด้วยรถของแม่ไอรินทร์……………………………………………..17
3.9 จัดทาเว็บไซต์…………………………………………………………………………..17
1
บทที่ 1 บทนํา
หลักการและเหตุผล
การฝึกเข้าวัดทาบุญช่วยกิจกรรมสาธารณะถึงแม้
จะไม่การทากิจกรรมเพื่อนามาทาโครงงานแต่เป็นกิจกรรมที่ทาได้ในทุกวัน
ปัจจุบันวัยรุ่นไทยไม่ใส่ใจที่จะอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยอันดีงาม
การช่วยปลูกฝั่งสิ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่ดีและสมควรทาเพื่อนรักษาวัฒนธรรมประเทศของเรา
คณะผู้จัดทาเล็งเห็นความสาคัญจึงอยากมีส่วนช่วยในการสร้างจิตสานึกเพื่อสังคมที่ดี
จึงได้จัดทาโครงการขึ้นถึงจะเป็นส่วนเล็กๆที่ได้มีส่วนในการทาสิ่งดีๆเพื่อสังคม แต่ในอนาคต
ถ้ามีบุคคลหรือผู้สนใจมาสานต่อก็จะเป็นการช่วยกันสืบสานวัฒนธรรมที่ดีงาม และได้บุญด้วย
การบูรณาการกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
1. ความพอประมาน ใช้อุปกรณ์ทาความสะอาดที่มีในบ้าน
2. ความมีเหตุผล เลือกวัดที่จะไปบาเพ็ญประโยชน์
3. การทีภูมิคุ้มกันที่ดี ทาให้ที่วัดมีความสะอาดน่าเข้า
ประชาชนละแวกใกล้ๆจะได้เข้ามาทาบุญเยอะๆ
เงื่อนไข
1. เงื่อนไขความรู้ รับรู้ถึงปัญหาความสกปรกภายในวัด
2. เงื่อนไขคุณธรรม เป็นการทาความสะอาดให้ปราศจากเชื้อโรค
วัตถุประสงค์ของโครงการ
1. เพื่อช่วยทาให้วัดมีความสะอาดสวยงาม น่าเข้ามาทาบุญ
2. เพื่อให้ช่วยกันรักษาความสะอาดภายในวัด
2
สถานที่ดําเนินการ
วัดบ้านหลุมหินตาบลบ้านหลุมหินอาเภอพนมทวนจังหวัดกาญจนบุรี
ขั้นตอนการดําเนินงาน
1. สมาชิกกลุ่มประชุมวางแผนการทาโครงการ
2. หาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่วัดที่จะไปทากิจกรรม
3. นัดแนะสถานที่และวันเวลาที่จะไปทากิจกรรม
4. จัดหาอุปกรณ์ทาความสะอาด
5. ไปทากิจกรรมสาธารณะประโยชน์ที่วัดบ้านหลุมหินอ.พนมทวน
6. สรุปโครงการ
7. จัดทาเว็บไซต์เผยแพร่โครงการ
ระยะเวลาดําเนินงาน
วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2558
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. วัดมีความสะอาดสวยงามน่าเข้ามาทาบุญ
2. ทุกคนได้รับรู้โครงการนี้
3
บทที่2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
จิตอาสา หรือ จิตสาธารณะ ( public consciousness หรือ Public mind) หมายถึง
จิตสานึกเพื่อส่วนรวม เพราะคาว่า “สาธารณะ” คือสิ่งที่มิได้เป็นของผู้หนึ่งผู้ใด จิตสาธารณะ
จึงเป็นความรู้สึกถึงการ เป็นเจ้าของในสิ่งที่เป็นสาธารณะ ในสิทธิและหน้าที่ที่จะดูแล และ
บารุงรักษาร่วมกัน
จิตอาสา หรือ มีจิตสาธารณะ ยังหมายรวมถึง จิตของคน ที่รู้จักความเสียสละ
ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการ ทาประโยชน์ เพื่อส่วนรวม จะช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม
ช่วยกันพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเป็นหลักการในการดาเนินชีวิต
ช่วยแก้ปัญหาและสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์สุขแก่สังคม เช่น
การช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมโดยการไม่ทิ้งขยะลงในแหล่งน้า
การดูแลรักษาสาธารณสมบัติ เช่น โทรศัพท์สาธารณะ
หลอดไฟฟ้าที่ให้ความสว่างตามถนนหนทาง แม้แต่การประหยัดน้าประปาหรือไฟฟ้า
ที่เป็นของส่วนรวม โดยใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าตลอดจนช่วยกันดูแลรักษา
ให้ความช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก หรือผู้ที่ร้องขอความช่วยเหลือเท่าที่จะทาได้
ตลอดจนร่วมมือกระทาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา หรือช่วยกันแก้ปัญหาแต่ต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย
เพื่อรักษาประโยชน์ส่วนรวม
ราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายของจิตสานึกทางสังคม
หรือจิตสานึกสาธารณะว่าคือการตระหนักรู้และคานึงถึงส่วนรวมร่วมกัน
หรือการคานึงถึงผู้อื่นที่ร่วมสัมพันธ์เป็นกลุ่มเดียวกัน
สานักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้ให้ความหมายว่า การรู้จักเอาใจใส่
เป็นธุระและเข้าร่วมในเรื่องของส่วนรวมที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ มี
ความสานึกและยึดมั่นในระบบคุณธรรม และ จริยธรรมที่ดีงามละอายต่อสิ่งผิด
เน้นความเรียบร้อย ประหยัดและมีความสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ
4
สรุป จิตอาสา หรือจิตสาธารณะ หรือจิตสานึกสาธารณะ คือ จิตสานึก(Conscious)
เป็นการตระหนักรู้ตัวหรือเป็นจิตส่วนที่รู้ตัวรู้ว่าทาอะไรอยู่ที่ไหน
เป็นอย่างไรขณะที่ตื่นอยู่นั่นเอง
ส่วน คาว่าสาธารณะ ( Public ) เป็น การแสดงออกเพื่อสังคมส่วนรวม
เป็นการบริการชุมชนทาประโยชน์เพื่อสังคมถ้าเป็นสิ่งของก็ต้องใช้ประโยชน์ร่วมกัน
เมื่อนาสองคา มารวม หมายถึงการตระหนักรู้ตน ที่จะทาสิ่งใดเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม
วัด คือคาเรียก สถานที่สาหรับประกอบกิจกรรมทางศาสนาของ ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ
ในประเทศไทย , กัมพูชา และ ลาว ภายในวัดจะมี กุฏิ
ซึ่งใช้เป็นเป็นที่อาศัยของนักบวชในศาสนาพุทธซึ่งก็คือ พระสงฆ์อีกทั้งยังมีเจดีย์ พระอุโบสถ
ศาลาการเปรียญ เมรุ ซึ่งใช้สาหรับประกอบศาสนพิธีต่างๆ เช่นการเวียนเทียน การสวดมนต์
การทาสมาธิ
วัดโดยส่วนใหญ่นิยมแบ่งเขตภายในวัดออกเป็นสองส่วนคือพุทธาวาสและ สังฆาวาส
โดยส่วน พุทธาวาส จะเป็นที่ตั้ง ของสถูปเจดีย์ อุโบสถ
สถานที่ประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา และ ส่วนสังฆาวาส จะเป็นส่วนกุฎิสงฆ์
สาหรับพระภิกษุสงฆ์ สามเณร จาพรรษา
และในปัจจุบันแทบทุกวัดจะเพิ่มส่วนฌาปนสถานเข้าไปด้วย
เพื่อประโยชน์ในด้านการประกอบพิธีทางศาสนาของชุมชน เช่น การฌาปนกิจศพ
โดยในอดีตส่วนนี้จะเป็นป่าช้าซึ่งอยู่ติด หรือใกล้วัดตามธรรมเนียมของแต่ละท้องถิ่น ซึ่
งส่วนใหญ่ กลุ่มฌาปนสถานในวัดพุทธศาสนาในประเทศไทยจะตั้งอยู่บนพื้นที่ ๆ
เป็นป่าช้าเดิม
ปัจจุบันวัดไทยในชนบทยังคงเป็นศูนย์รวมของคนในชุมชน
ซึ่งต่างจากในเมืองใหญ่ที่วัดกลายเป็นเพียงสถานที่จาพรรษาของพระสงฆ์และเพื่อประกอบพิธีท
างศาสนาเท่านั้น
5
พระอารามหลวง วัดในประเทศไทย แบ่งได้เป็นสองประเภทใหญ่ ได้แก่
พระอารามหลวงหรือ วัดหลวง
คือวัดที่พระเจ้าแผ่นดินทรงสร้างหรือทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้เข้าจานวนในบัญชีเป็นพระอารามหลวงและวัดราษฎร์
คือวัดที่ได้รับพระราชทานที่วิสุงคามสีมาแต่มิได้เข้าบัญชีเป็นพระอารามหลวง หรือ
วัดที่พุทธศาสนิกร่วมใจบริจาคทรัพย์และที่ดินถวายเป็นสังฆาราม
การจัดลาดับชั้นของพระอารามหลวงมีดังต่อไปนี้
1 พระอารามหลวงชั้นเอกมีสามชนิด ได้แก่ราชวรมหาวิหารราชวรวิหาร
และวรมหาวิหาร
2. พระอารามหลวงชั้นโทมีสี่ชนิด ได้แก่ราชวรมหาวิหารราชวรวิหาร วรมหาวิหาร
และวรวิหาร
3. พระอารามหลวงชั้นตรี มีสามชนิดได้แก่ราชวรวิหารวรวิหารและสามัญ
(ไม่มีสร้อยต่อท้าย)
ข้อควรปฏิบัติในการไปวัดไทย
ควรแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อยและสาหรับการเตรียมอาหารไปถวายพระภิกษุ
ต้องเป็นอาหารที่สุกแล้วหรือจาพวกผลไม้อย่าถวายอาหารที่สุก ๆ ดิบๆ
และควรระมัดระวังเนื้อสัตว์ต้องห้าม เช่น เนื้อมนุษย์ เนื้อช้าง เนื้อม้า เนื้อสุนัข เนื้อราชสีห์
เนื้องู เนื้อเสือโคร่ง เนื้อเสือเหลือง เนื้อเสือดาว เนื้อหมี ไปถวายพระภิกษุ เพราะ
เป็นเนื้อต้องห้ามสาหรับพระภิกษุ และสุดท้าย ไม่ควรนาเด็กอ่อนไปวัดด้วย
เพราะเด็กอาจจะร้องไห้สร้างความราคาญแก่ผู้อื่นได้
ความสําคัญของพระพุทธศาสนาต่อสังคมไทย มีดังนี้
6
1. พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ชาวไทยส่วนใหญ่นับถือ
ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ร้อยละ 95
นับถือพระพุทธศาสนาสืบต่อมาจากบรรพบุรุษไทย นับตั้งแต่ไทยมีประวัติศาสตร์ชัดเจน
ชาวไทยก็นับถือพระพุทธศาสนา อยู่แล้ว หลักฐานโบราณ ได้แก่โบราณสถานที่
เป็นศาสนสถาน โบราณวัตถุ เช่น พระธรรมจักร ใบเสมา พระพุทธรูป ศิลาจารึก
เป็นต้น แสดงว่าผู้คนในดินแดนไทยรับนับถือพระพุทธศาสนา(ทั้งนิกายเถรวาท และมหายาน)
มาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 12กล่าวได้ว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจาชาติไทยมาช้านานแล้ว
2. พระพุทธศาสนาเป็นรากฐานสาคัญ ของวัฒนธรรมไทย เนื่องจากชาวไทยนับถือ
พระพุทธศาสนา มาช้านา จนหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ได้หล่อหลอม ซึมซับ
ลงในวิถีไทย กลายเป็นรากฐานวิถีชีวิตของคนไทยในทุกด้าน ทั้งด้านวิถีชีวิตความเป็นอยู่
ภาษาขนบธรรมเนียมประเพณีและศีลธรรม ดังนี้
1) วิถีชีวิตของคนไทยคนไทยมีวิถีการดาเนินชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ได้แก่
การแสดงความเคารพการมีน้าใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ความกตัญญูกตเวที
การไม่อาฆาตหรือมุ่งร้ายต่อผู้อื่น ความอดทน และ การเป็นผู้มีอารมณ์แจ่มใส
รื่นเริง เป็นต้น ล้วนเป็นอิทธิพลจากหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น
ซึ่งได้หล่อหลอมให้คนไทยมีลักษณะเฉพาะตัว
เป็นเอกลักษณ์ของคนไทยที่นานาชาติยกย่องชื่นชม
2) ภาษาและวรรณกรรมไทยภาษาทางพระพุทธศาสนาเช่นภาษาบาลี
มีอยู่ในภาษาไทยจานวนมากวรรณกรรม ไทย หลายเรื่อง มีที่มาจากหลักธรรม
ทาง พระพุทธศาสนา เช่น ไตรภูมิกถา ในสมัยสุโขทัย กาพย์มหาชาติ
นันโทปนันทสูตรคาหลวง พระมาลัยคาหลวง ปุณโณวาทคาฉันท์ ในสมัย
อยุธยา เป็นต้น
7
3) ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
ประเพณีไทยที่มาจากความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนามีอยู่มากมาย เช่น
การอุปสมบท ประเพณีทอดกฐิน ประเพณีแห่เทียนพรรษา ประเพณีชักพระ เป็นต้น
กล่าวได้ว่าขนบธรรมเนียมประเพณี
ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนามีความผูกพันกับคนไทยตั้งแต่เกิดจนตาย
4) ศิลปกรรมไทย พระพุทธศาสนา เป็นบ่อเกิดของศิลปะแขนงต่างๆ วัด
เป็นแหล่งรวมศิลปกรรมไทยทางด้านสถาปัตยกรรม เช่นรูปแบบการเสร้างเจดีย์
พระปรางค์วิหาร ที่งดงามมากเช่นวัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว)
กรุงเทพมหานครประติมากรรม ได้แก่งานปั้นและหล่อพระพุทธรูป เช่น
พระพุทธลีลาในสมัยสุโขทัย พระพุทธชินราช วัดพระศรีมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก
จิตรกรรม ได้แก่ ภาพวาดฝาผนังและเพดานวัดต่างๆ เช่นจิตรกรรมฝาผนัง
วัดเบญจมบพิตรกรุงเทพมหานคร
3. พระพุทธศาสนาเป็นศูนย์รวมจิตใจของสังคมไทย
พระสงฆ์เป็นผู้นาทางจิตใจของประชาชน
เป็นศูนย์กลางของความเคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชน
ให้คนไทยประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม นอกจากนี้
วัดยังเป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นสถานที่ประกอบกิจกรรมของชุมชน
สร้างความสามัคคีในชุมชน
4. พระพุทธศาสนา เป็นหลักในการ พัฒนาในการพัฒนาชาติไทย
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนามุ่งเน้นการพัฒนาคนให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพทั้งด้านสุขภาพกาย
สุขภาพจิตใช้คุณธรรม และสติปัญญาในการดาเนินชีวิตเพื่อพัฒนาตนเองและ
ร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาชุมชนพัฒนาสังคมและพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง
นอกจากนี้พระสงฆ์หลายท่านยังมีบทบาทสาคัญในการเป็นผู้นาชุมชนพัฒนาในด้านต่างๆ เช่น
การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การอนุรักษ์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่น
8
วัดเป็นแหล่งการเรียนรู้ ของสังคมไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ชาวไทยได้บวชเรียนในพระพุทธศาสนา ได้ฝึกฝนอบรมตนให้เป็นคนดี
เป็นกาลังสาคัญในการพัฒนาชาติไทย
5. พระพุทธศาสนาเป็นหนึ่งในสามสถาบันหลักของชาติไทย
สถาบันหลักของชาติไทยที่คนไทยทุกคน ให้ความเคารพนับถือ ประกอบด้วยชาติ
ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ รัฐธรรมนูญไทยได้กาหนดให้พระมหากษัตริย์ ทรงเป็น
พุทธมามกะ หมายถึง
พระประมุขของชาติไทยที่ทรงนับถือพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกับประชาชนส่วนใหญ่ของประเ
ทศและยังเป็นอัครศาสนูปถัมภกคือทรงให้ความอุปถัมภ์ศาสนาทุกศาสนาในประเทศไทย
ความสาคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นสถาบันหลักของสังคมไทย
สถาบันพระพุทธศาสนาเป็นสถาบันหลักสถาบันหนึ่งของสังคมไทย
คนไทยต่างให้การยอมรับนับถือมาตั้งแต่โบราณกาลและมีการสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้
โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภก
เมื่อพระพุทธศาสนาได้เข้ามาประดิษฐานมั่นคงในสังคมไทย วัดและพระสงฆ์มี
บทบาทเกี่ยวข้องกับการดาเนินชีวิตของคนไทย วัดจึงได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
วัดเป็นศูนย์กลางของการอบรมสั่งสอนจริยธรรมเป็นสถาบันสาคัญทั้งในด้านการศึกษา
สังค ม และ เป็นบ่อเกิดของศิลปะ สาขาต่างๆ
ส่วนพระสงฆ์ผู้ทาหน้าที่สืบทอดพระพุทธศาสนาก็ได้รับการยกย่องในสังคม
ในฐานะเป็นผู้ทรงคุณธรรมควรแก่การเคารพ และเชื่อฟังซึ่งสรุปได้ดังนี้
9
ด้านการศึกษาวัดเป็นสถานศึกษาเล่าเรียน
โดยพระภิกษุสงฆ์ทาหน้าที่เป็นผู้อบรมสั่งสอนให้ความรู้ แม้ในปัจจุบัน
พระสงฆ์ก็ยังคงทาหน้าที่สอนพระพุทธศาสนาในโรงเรียน
ด้านสังคม วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชนเป็นที่ชุมนุมเพื่อทาบุญฟังพระธรรมเทศนา
ตลอดจนการพบปะสังสรรค์
พระสงฆ์เป็นตัวแทนของสถาบันพระพุทธศาสนาที่มีบทบาทสาคัญในการเป็นผู้นาทางจิตใจขอ
งประชาชน
ด้านศิลปกรรม วัดเป็นที่รวมแห่งศิลปกรรมประเภทต่างๆ เช่น
ประติมากรรมปูนปั้น ศิลปกรรมแกะสลักไม้จิตรกรรมฝาผนังตลอดถึงถาวรวัตถุต่างๆ
ที่ศิลปินไทยได้ถ่ายทอดไว้ที่โบสถ์ วิหารเจดีย์ องค์พระพุทธรูปซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง
ศรัทธาที่มีต่อพระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนาในฐานะเป็นสภาพแวดล้อมที่กว้างขวางและครอบคลุมสังคมไทย
จากการศึกษาประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย
พบว่าประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของดินเแดนที่เรียกว่าสุวรรณภูมิ
เป็นที่ตั้งมั่นของพระพุทธศาสนามาเป็นเวลายาวนาน
คาสอนของพระพุทธศาสนาได้เผยแผ่ไปทุกภูมิภาคของประเทศและสัมพันธ์กับวิถีชีวิตของผู้คน
จนก่อให้เกิดขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรมศิลปกรรม
สถาปัตยกรรมอันเนื่องด้วยพระพุทธศาสนา จนกลายมาเป็นสมบัติของชาติ
ให้พุทธศาสนิกชนได้เกิดความภาคภูมิใจ
พระพุทธศาสนาจึงมีความสัมพันธ์กับชีวิตประจาวันอย่างใกล้ชิดอยู่แล้วโดยปริยาย
แม้มรรยาทต่าง ๆ ที่คนไทยถูกสอนให้เคารพอาวุโส มีการยืดมั่น และ
ปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามขนบธรรมเนียม
ประเพณีก็ล้วนมาจากหลักเกณฑ์ทางพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น
10
ความสาคัญของวัดที่มีต่อวิถีชีวิตของคนไทย
สังคมไทย เคารพ ศรัทธาต่อพระภิกษุมาก เนื่องเพราะเชื่อว่า พระภิกษุ
นั้นเป็นผู้มีความรู้มากกว่าฆราวาสเป็นผู้ทรงศีลย่อมพูดแต่สิ่งเท็จจริงและเป็นครูบาอาจารย์
ความสัมพันธ์ระหว่างคนในชุมชนที่มีต่อวัดจึงผูกพันแนบแน่นกับวิถีชีวิตของ
ทุกคนนับแต่เกิดจนตายคาสั่งสอนจึงได้รับความเชื่อถืออย่างไร้ความคลางแคลงใจ
ดังนั้นพระสงฆ์จึงกลายเป็นที่พึ่งของสังคมในทุกๆเรื่องไม่ว่าในทางที่เป็นมงคลและอัปมงคล
ส่วน วัดนั้นเป็นสถานที่รับใช้บริการงานประเพณีการทาบุญต่างๆเพื่อให้เกิดกุศลบุญแก่
ฆราวาสเนื่องในวันสาคัญทางศาสนาซึ่งมีอยู่แทบตลอดทั้งปี รวมทั้งเป็น
สถานที่ให้การศึกษาแก่ชุมชนนับแต่การบวชเณรจนถึงบวชเป็นพระภิกษุ
สถานที่ให้ความสงบเยือกเย็นทางใจเช่น การแสดงพระธรรมเทศนา การฝึกปฏิบัติ
ธรรม สมาธิ
เป็นสถานที่ชุมนุมของสังคมทุกกาลวาระเช่นการประชุมกรรมการหมู่บ้าน
งานเทศกาลรื่นเริงที่มีการ ออกร้านมีมหรสพต่างๆ เป็นต้น
เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมเนื่องในการตายเช่นการตั้งศพสวดพระอภิธรรม
การเผาศพ
ความสัมพันธ์ระหว่างวัดกับวัง
พระมหากษัตริย์ในอุดมคติของสังคมไทย จะสมบูรณ์แบบได้นั้น
ต้องแสดงศักยภาพของพระองค์ใน ๒ ลักษณะคือความเป็นพระจักรพรรดิราช
ที่สามารถปกป้ องปวงประชาให้อยู่เย็นเป็นสุขจากศัตรู และความเป็นพระมหาธรรมราชา
หมายถึง พระราชาผู้ทรงคุณธรรม
11
ดังนั้นพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์จึงทรงดาเนินนโยบายตามแนวความคิดดัง
กล่าวนี้มาโดยตลอด โดยการสร้างบูรณปฏิสังขรณ์ วัดวาอารามต่างๆ
ก็เพื่อส่งเสริมให้ภาพลักษณ์แห่ง ความเป็น “ธรรมราชา” ของพระองค์สมบูรณ์แบบขึ้น
นอกเหนือจากการอาศัยศาสนามาช่วยในพิธีกรรมต่างๆนั่นเอง
ความสัมพันธ์ระหว่างบ้านวัดและวัง
ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยดังกล่าวมาทั้งหมดมีความเกี่ยวเนื่องกับสถาบันหลัก
๓ ประเภท คือบ้านวัดและ วังสถาบันทั้ง ๓
หน่วยนี้มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องซึ่งกันและกันตลอดเวลาโดย “วัง”
นั้นอยู่ในสถานะของที่ประทับแห่งกษัตริย์ หรือผู้นาของสังคมและประเทศชาติ
วังจึงเป็นเสมือนหนึ่งสัญลักษณ์แห่งศูนย์รวมในทางอาณาจักร ในขณะที่ “บ้าน”
เป็นที่พักอาศัยของเหล่าทวยราษฎรเป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐาน สาหรับ “วัด”
อันเป็นที่ตั้งของพุทธสถานนั้นก็จะดารงอยู่ในฐานะศูนย์รวมทางจิตใจ
ที่เป็นตัวกลางเชื่อมระหว่าง “วัง” กับ “บ้าน” หรืออีกนัยยะหนึ่งระหว่าง “กษัตริย์” กับ
“ราษฎร” เมื่อไทยรับเอาอิทธิพลความเชื่อในเรื่องของ “สมมุติเทพ”
จากขอมเข้ามาใช้ในสังคมสมัยอยุธยา ภาพลักษณ์และบทบาทแห่งกษัตริย์ของไทย
ยิ่งมีความสูงส่งและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น
จนทาให้ความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันกษัตริย์กับราษฎรกลับมีช่องว่างห่างกันมาก “วัด”
จึงเป็นเสมือนสายใยที่เชื่อมโยงช่องว่างดังกล่าวนั้น วัดสาคัญๆ โดยเฉพาะอย่างวัดมหาธาตุ
ถูกสถาปนาขึ้น ด้วยชนชั้นปกครองทั้งสิ้น เนื่องจาก ต้องอาศัยกาลัง
และทรัพย์วัสดุในการก่อสร้างจานวนมาก
วัดที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างขึ้นจึงวิจิตรบรรจงงดงาม
เมื่อวัดดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นศูนย์รวมในทางจิตใจของชุมชน
กษัตริย์ในฐานะผู้สร้างวัด ก็ย่อมได้รับความเคารพศรัทธาและซื่อสัตย์จงรัก
ภักดีจากทวยราษฎร์ในชุมชนนั้นโดยปริยายอานาจและพลังมวลชนที่กษัตริย์พึงจะได้มา
12
อาศัยการสื่อผ่านทางเจ้าอาวาสวัดต่างๆนี้โดยตรง
นี่คือความสัมพันธ์ระหว่างความหมายของบ้านวัดและวัง
วัดในสถานะที่เป็นศูนย์กลางของสังคมมีความสาคัญและบทบาทหน้าที่ดังนี้ คือ
๑.วัดในฐานะตัวแทนความเจริญและความมั่นคงของแผ่นดิน
๒.วัดในฐานะสถาบันผู้สืบทอดศาสนาให้ยั่งยืน
๓.วัดในฐานะสถานที่ให้การศึกษา
๔.วัดในฐานะที่พึ่งทางกายและใจของสังคม
๕.วัดในฐานะศูนย์รวมของศิลปกรรม
บทวิเคราะห์
ในสมัยโบราณ วัดเป็นสถานที่รวมจิตใจของคนไทย และนอกจากนั้น
วัดยังเป็นสถานที่ให้ความรู้แก่คนในสมัยก่อน เพราะเเต่ก่อนยังไม่มีโรงเรียน
ก็เลยใช้วัดเป็นที่ให้ความรู้เเก่เด็กโดยมี พระเป็นผู้อบรมสั่งสอน
และวัดยังเป็นที่ชุมนุมของคนเพื่อเป็นที่ประชุมหรือเพื่อเป็นที่ชาระจิตใจของผู้คน
นับได้ว่าในสมัยก่อนวัดมีอิทธิพลมาก
ต่อคนไทยจนมาถึงในยุคสมัยปัจจุบันวัดก็ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยมาช้านาน
ซึ่งวัดจะเป็นที่รวบรวมคาสั่งสอนของพระพุทธเจ้าต่างๆไว้มากมายนอกจากนี้วัดก็ยังเป็นศูนย์รว
มความเชื่อต่างๆทางไสยศาสตร์ ของชาวพุทธซึ่งเป็นความเชื่อของเเต่ละบุคคล
ในปัจจุบันนี้ในประเทศไทยจะมีวัดต่างๆมากมาย
ที่เกิดจากหลายเชื้อชาติที่เข้ามาอาศัยในประเทศไทยเช่น วัดจีน ทั้งนี้
ก็จะเกิดทั้งข้อดีเเละข้อเสียซึ่งข้อดีก็คือมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมได้ แต่ข้อเสียคือ
ความขัดเเย้งของความคิดและวัฒนธรรมได้
ในฐานะที่เราเป็นทหารเราควรช่วยกันทะนุบารุงรักษาวัดให้มั่นคงอยู่คู่กับคนไทยเพื่อให้คนไทย
13
ได้มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ทั้งในยามทุกข์ และยามสุข
ดังนั้นวัดจึงเปรียบเสมือนแหล่งรวบรวมและสร้างวัฒนธรรม
ซึ่งวัฒนธรรมเป็นค่านิยมและความเชื่อที่มีร่วมกันมาอย่าช้านานซึ่งเป็นระบบที่เกิดขึ้นในสังคมแ
ทบทุกสังคมของคนไทยและกลายเป็นแนวทางในการกาหนดแบบแผนพฤติกรรม
บรรทัดฐานของคนไทยวัฒนธรรมจึงเป็นเสมือนบุคลิกภาพ และจิตวิญญาณของคนในสังคม
ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทหาร จึงเป็นกาลังสาคัญในการรักษาวัด
ซึ่งเป็นสมบัติของคนไทยไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชมในความงดงามของวัฒนธรรมของคนไทย
วัดหมายถึงสถานที่ทางพระพุทธศาสนา ซึ่งปกติมีพระอุโบสถพระวิหารพระเจดีย์
รวมทั้งมีพระภิกษุสงฆ์อยู่อาศัย
คาว่า “วัด” เป็นคาเรียกชื่อศาสนสถานแบบคาไทยโดยที่มาของคาว่า “วัด”นี้
ยังไม่มีข้อยุติ ด้วยบางคนอธิบายว่ามาจากคาว่า “วตวา” ในภาษาบาลี แปลว่า
เป็นที่สนทนาธรรม บ้างก็ว่ามาจาก “วัตร”
อันหมายถึงกิจปฏิบัติหรือหน้าที่ของพระภิกษุที่พึงกระทาหรือแปลอีกอย่างว่าการจาศีลซึ่งวัด
(วัตร) ตามนัยยะนี้จึงน่าจะหมายถึงสถานที่ซึ่งพระภิกษุสงฆ์ใช้เป็นที่จาศีลภาวนา
หรือสถานที่ที่พระภิกษุสงฆ์ใช้ปฏิบัติภารกิจ ที่พึงกระทานั่นเอง
แต่ก็มีบางคนสันนิษฐานว่ามาจากคาว่า “วัดวา”
อันหมายถึงการกาหนดขอบเขตของดินแดนที่สร้างเป็นศาสนสถาน
เพราะวัดกับวามีความหมายอย่างเดียวกันคือการสอบขนาดหรือปริมาณของสิ่งต่างๆเช่น
ความยาวความกว้างเป็นต้นวัดในนัยยะอย่างหลังนี้จึงหมายถึงพื้นที่
แต่เดิมครั้งพุทธกาลนั้นมีการใช้คาว่า“อาราม”เป็นคาเรียกชื่อ
ศาสนสถานในทางพุทธศาสนาที่ใช้เรียกเสนาสนะที่มีผู้ศรัทธาถวายพระพุทธองค์ใน ระยะแรกๆ
เช่น “ เชตวนาราม” หรือชื่อเต็มว่า “ เชตวเนอนาถบิณฑิกสสอาราเม” ซึ่งมีความหมายว่า “
สวนของอนาถบิณฑที่ป่าเชต ” หรือ “ เวฬุวนาราม ” หรือ “ บุปผาราม ” เป็นต้น
14
โดย “ อาราเม ” หรือ “ อาราม ” ในคาอ่านของไทยแปลว่า สวน
นอกจากนี้ในเวลาต่อมายังมีคาที่ใช้เรียกอีกอย่างว่า “วิหาระ”หรือ “วิหาร”
อย่างไรก็ตามก็ยังมีคาที่ให้ความหมายว่าวัดอยู่อีกชื่อหนึ่งคือ “ อาวาส ”
ดังชื่อเรียกสมภารผู้ครองวัดว่า “เจ้าอาวาส”ซึ่งแปลว่าผู้เป็นใหญ่ในวัดหรือชื่อเรียกวัดเช่น
เทพศิรินทราวาส ( เทพ+ศิรินทรา+ อาวาส)
โดยปกติคาว่าอาวาสไม่เป็นที่นิยมใช้กันในความหมายว่าวัด
ทั้งนี้เพราะนิยมนาไปใช้กับความหมายที่แคบกว่าคาว่าอาราม
โดยมักให้ความหมายในเชิงที่เป็นตัวเรือนที่อยู่อาศัยมากกว่า อาวาสจึง
เสมือนเป็นที่อยู่ส่วนย่อยภายในอารามที่หมายถึงพื้นที่ที่เป็นศาส สถานทั้งเขตเช่น
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพฯ พระอารามหลวงชั้นเอกชนิดราชวรวิหาร,
วัดบวรนิเวศวิหารกรุงเทพฯ พระอารามหลวงชั้นเอกชนิดราชวรวิหาร ,วัดกัลยาณมิตร
ธนบุรี พระอารามหลวงชั้นโทชนิดราชวรมหาวิหาร , วัดปทุมวนารามกรุงเทพฯ
พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดราชวรวิหาร,วัดอินทรวิหารวัดราษฎร์
15
บทที่3 วิธีการดําเนินงาน
วัสดุอุปกรณ์
1. ไม้กวาดดอกหญ้า
2. สายยาง
3. ถังน้า
4. ไม้กวาดทางมะพร้าว
5. ผงซักฟอก
6. ขัน
7. ผ้าขี้ริ้ว
8. ไม้ถูพื้น
9. แปรงขัดพื้น
10. ฝอยขัดหมอ
11. ไม้ถูพื้นไล่น้า
12. เกรียง(เอาไว้ขูดน้าตาเทียน)
13. แปรงขัดส้วม
16
14. กล้องถ่ายรูป
วิธีการดําเนินงาน
1. จัดกลุ่มเลือกหัวข้อในการดาเนินกิจกรรม
2. ลงมติเลือกหัวข้อที่จะทาคือจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
3. วางแผนในการดาเนินการ
4. เลือกวัดที่จะไปทากิจกรรมจิตอาสา
5. นัดหมายวันเวลาสถานที่ที่จะเจอกันและนั่งรถไปพร้อมเพรียงกัน
6. ดาเนินงานตามกาหนดการที่นัดไว้
6.1.นัดพบกันที่ บขส. เวลา 09.00น.
6.2.ขึ้นรถสาย กาญจนบุรี-สุพรรณบุรี (ฟรี เพราะเป็นญาติกับจิตติ)เวลา 10.00น.
6.3.ถึงสี่แยกห้วยสะพาน เวลา 10.20 น.
6.4.เดินเข้าไปที่วัดห้วยสะพานเพื่อเข้าห้องน้าระยะทาง 500เมตร
6.5. รอน้ามารับไปวัดบ้านหลุมหิน
17
6.6.พักเอาของที่บ้านของนางสาวไอรินทร์
6.7. ถึงแล้วจัดเตรียมของที่จะต้องเข้าไปทาความสะอาดที่วัด
6.8.เดินทางไปวัดบ้านหลุมหิน
6.9.เริ่มทาความสะอาด
18
7.เดินทางกลับบ้านด้วยรถของแม่ไอรินทร์
19
8.จัดทาเว็บไซต์
บทที่4 ผลการดําเนินงาน
จากการดาเนินงานตามโครงการที่กาหนดคณะผู้จัดทาไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้และการเดินทางล้วนแต่มาจากบ้านของผู้จัดทาทั้งสิ้น และมีเว็บไซต์
ผลจากการดาเนินกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเราทาให้วัดสะอาด และน่าอยู่ยิ่งขึ้น
ประชาชนในระแวกวัดก็สามารถเข้ามาทาบุญตักบาตรได้อย่างสบายใจ
ซึ่งการทากิจกรรมจิตอาสาเป็นการทาบุญอย่างหนึ่งคนทาก็สุขใจที่ได้ทา
และผู้ที่เข้ามาทาบุญก็สุขใจ
ในตอนท้ายหลวงพ่อในวัดบ้านหลุมหินได้มาให้ศีลให้พรกับคณะผู้จัดทา
20
บทที่ 5 สรุปผลและอภิปราย
สรุปและอภิปรายผล
จากการดาเนินงานตามโครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
ทาให้วัดมีความสะอาดมากขึ้นและไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆการนั่งรถไปทากิจกรรมก็ไม่เสียค่าใช้จ่าย
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ก็นามาจากบ้าน
จึงเป็นการประหยัดตลอดการทาโครงการและยังได้บุญและความอิ่มใจ
21
อภิปรายผลการดําเนินงาน
จากการดาเนินงาน ตามโครงการที่กาหนด คณะผู้จัดทา ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
เนื่องจาก วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ ล้วนแต่มาจากบ้านของผู้จัดทาทั้งสิ้น และ
การเดินทางก็ไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะได้รับความอนุเคราะห์จากคนขับรถประจาทาง
ผลจากการดาเนินกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา ทาให้วัดสะอาดและน่าอยู่ยิ่งขึ้น
ประชาชนในระแวกวัดก็สามารถเข้ามาทาบุญตักบาตรได้อย่างสบายใจ
ซึ่งการทากิจกรรมจิตอาสาเป็นการทาบุญอย่างหนึ่งคนทาก็สุขใจที่ได้ทา
และผู้ที่เข้ามาทาบุญก็อิ่มใจ
ข้อเสนอแนะ
1. เพิ่มจานวนอาสาสมัครที่จะไปทาให้มากขึ้น
2. เพิ่มสถานที่ที่จะไปทาให้มากขึ้น
3. รับบริจาคเพื่อนาไปบารุงสถานที่
22
ภาคผนวก
23
ขณะเดินทางไปทากิจกรรม
บริเวณหน้าวัด
24
ภาพรวมของวัดหลุมหิน
25
สถานที่ทาความสะอาดก่อนการลงมือทา
26
27
28
29
ภาพระหว่างการทาความสะอาดบริเวณที่ชาวบ้านสักการะพระประจาวันเกิด
30
ภาพก่อนทาความสะอาดบริเวณหลวงปู่กัณฑ์
31
ภาพระหว่างการทาความสะอาดศาลาหลวงปู่กัณฑ์
32
หลังจากทาความสะอาดเสร็จ
หลวงพ่อมาให้พร
33
เดินทางกลับบ้าน
ค
บรรณานุกรม
นนร.ธรรมรัตน์ แววศรี. ความสาคัญของวัดที่มีต่อวิถีชีวิตคนไทย.[ออนไลน์].
เข้าถึงได้จาก:http : / /www. http://thammarat5263.blogspot.com/. (วันที่ค้นข้อมูล:
1กันยายน 2558).
พุทธะ. ความหมายของวัด.[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก:
http://www.phuttha.com/ศาสนสถาน/วัด/ ความหมายของวัด. (วันที่ค้นข้อมูล:1
กันยายน 2558).
วิฬาเถื่อน.วามสาคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นสถาบันหลักของสังคมไทย
. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
http://www.oknation.net/blog/preeeecha/2010/02/17/entry-3/. (วันที่ค้นข้อมูล:
1กันยายน 2558).
โครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา

Más contenido relacionado

La actualidad más candente

หน้าปก บทคัดย่อ สารบัญ ภาคผนวก บรรณานุกรม Is
หน้าปก บทคัดย่อ สารบัญ ภาคผนวก บรรณานุกรม Isหน้าปก บทคัดย่อ สารบัญ ภาคผนวก บรรณานุกรม Is
หน้าปก บทคัดย่อ สารบัญ ภาคผนวก บรรณานุกรม Is
Sasiyada Promsuban
 
ตัวอย่างโครงงานการจำลองทฤษฎี
ตัวอย่างโครงงานการจำลองทฤษฎีตัวอย่างโครงงานการจำลองทฤษฎี
ตัวอย่างโครงงานการจำลองทฤษฎี
KawinTheSinestron
 
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขโครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข
N'Pop Intrara
 
โครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูด
โครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูดโครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูด
โครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูด
Bio Beau
 
ปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกในปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกใน
amixdouble
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
ssuser858855
 
โครงการปันรัก
โครงการปันรักโครงการปันรัก
โครงการปันรัก
พัน พัน
 
โครงงาน Is-กลุ่มสบู่-1-5
โครงงาน Is-กลุ่มสบู่-1-5โครงงาน Is-กลุ่มสบู่-1-5
โครงงาน Is-กลุ่มสบู่-1-5
Nontagan Lertkachensri
 
โครงงานน้ำหอมปรับอากาศชนิดเจล
โครงงานน้ำหอมปรับอากาศชนิดเจลโครงงานน้ำหอมปรับอากาศชนิดเจล
โครงงานน้ำหอมปรับอากาศชนิดเจล
jellyjel
 
โครงงานจิตอาสา พาสะอาด
โครงงานจิตอาสา   พาสะอาดโครงงานจิตอาสา   พาสะอาด
โครงงานจิตอาสา พาสะอาด
Gob Chantaramanee
 
โครงงานการประดิษฐ์กระถางจากขวดพลาสติก
โครงงานการประดิษฐ์กระถางจากขวดพลาสติกโครงงานการประดิษฐ์กระถางจากขวดพลาสติก
โครงงานการประดิษฐ์กระถางจากขวดพลาสติก
พัน พัน
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ ประดิษฐ์ของใช้จากเมล็ดมะค่า
โครงงานวิทยาศาสตร์  ประดิษฐ์ของใช้จากเมล็ดมะค่าโครงงานวิทยาศาสตร์  ประดิษฐ์ของใช้จากเมล็ดมะค่า
โครงงานวิทยาศาสตร์ ประดิษฐ์ของใช้จากเมล็ดมะค่า
Chok Ke
 

La actualidad más candente (20)

โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
หน้าปก บทคัดย่อ สารบัญ ภาคผนวก บรรณานุกรม Is
หน้าปก บทคัดย่อ สารบัญ ภาคผนวก บรรณานุกรม Isหน้าปก บทคัดย่อ สารบัญ ภาคผนวก บรรณานุกรม Is
หน้าปก บทคัดย่อ สารบัญ ภาคผนวก บรรณานุกรม Is
 
ตัวอย่างโครงงานการจำลองทฤษฎี
ตัวอย่างโครงงานการจำลองทฤษฎีตัวอย่างโครงงานการจำลองทฤษฎี
ตัวอย่างโครงงานการจำลองทฤษฎี
 
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขโครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข
 
โครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูด
โครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูดโครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูด
โครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูด
 
ปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกในปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกใน
 
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1
 
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
ที่มาและความสำคัญของโครงงานที่มาและความสำคัญของโครงงาน
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
 
โครงการปันรัก
โครงการปันรักโครงการปันรัก
โครงการปันรัก
 
โครงงานสังคม ม.ปลาย
โครงงานสังคม ม.ปลายโครงงานสังคม ม.ปลาย
โครงงานสังคม ม.ปลาย
 
คำนำไอเอสใหม่
คำนำไอเอสใหม่คำนำไอเอสใหม่
คำนำไอเอสใหม่
 
โครงงาน Is-กลุ่มสบู่-1-5
โครงงาน Is-กลุ่มสบู่-1-5โครงงาน Is-กลุ่มสบู่-1-5
โครงงาน Is-กลุ่มสบู่-1-5
 
โครงงานน้ำหอมปรับอากาศชนิดเจล
โครงงานน้ำหอมปรับอากาศชนิดเจลโครงงานน้ำหอมปรับอากาศชนิดเจล
โครงงานน้ำหอมปรับอากาศชนิดเจล
 
โครงงานวุ้นกะทิ
โครงงานวุ้นกะทิโครงงานวุ้นกะทิ
โครงงานวุ้นกะทิ
 
โครงงานจิตอาสา พาสะอาด
โครงงานจิตอาสา   พาสะอาดโครงงานจิตอาสา   พาสะอาด
โครงงานจิตอาสา พาสะอาด
 
คำนำ
คำนำคำนำ
คำนำ
 
โครงงานสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้
โครงงานสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้โครงงานสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้
โครงงานสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้
 
โครงงานการประดิษฐ์กระถางจากขวดพลาสติก
โครงงานการประดิษฐ์กระถางจากขวดพลาสติกโครงงานการประดิษฐ์กระถางจากขวดพลาสติก
โครงงานการประดิษฐ์กระถางจากขวดพลาสติก
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ ประดิษฐ์ของใช้จากเมล็ดมะค่า
โครงงานวิทยาศาสตร์  ประดิษฐ์ของใช้จากเมล็ดมะค่าโครงงานวิทยาศาสตร์  ประดิษฐ์ของใช้จากเมล็ดมะค่า
โครงงานวิทยาศาสตร์ ประดิษฐ์ของใช้จากเมล็ดมะค่า
 

Destacado

โครงการ เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน
โครงการ    เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนโครงการ    เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน
โครงการ เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน
madechada
 
โครงงาน เพาว์เวอร์พอย
โครงงาน เพาว์เวอร์พอยโครงงาน เพาว์เวอร์พอย
โครงงาน เพาว์เวอร์พอย
Nick Nook
 
โครงร่างโครงงาน กรุความรู้...สังคมศึกษา
โครงร่างโครงงาน กรุความรู้...สังคมศึกษาโครงร่างโครงงาน กรุความรู้...สังคมศึกษา
โครงร่างโครงงาน กรุความรู้...สังคมศึกษา
Panupong Srimuang
 
โครงการเก็บขยะในโรงเรียนสู่จิตสำนึกต่อชุมชน
โครงการเก็บขยะในโรงเรียนสู่จิตสำนึกต่อชุมชนโครงการเก็บขยะในโรงเรียนสู่จิตสำนึกต่อชุมชน
โครงการเก็บขยะในโรงเรียนสู่จิตสำนึกต่อชุมชน
Natthawut Sutthi
 
ศาสนาและหน้าที่พลเมือง สค31002
ศาสนาและหน้าที่พลเมือง สค31002ศาสนาและหน้าที่พลเมือง สค31002
ศาสนาและหน้าที่พลเมือง สค31002
Thidarat Termphon
 
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บทรูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
Aekapoj Poosathan
 

Destacado (11)

กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์
กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์
กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์
 
โครงการผู้บำเพ็ญประโยชน์
โครงการผู้บำเพ็ญประโยชน์โครงการผู้บำเพ็ญประโยชน์
โครงการผู้บำเพ็ญประโยชน์
 
โครงการ เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน
โครงการ    เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนโครงการ    เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน
โครงการ เสริมสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน
 
โครงงาน เพาว์เวอร์พอย
โครงงาน เพาว์เวอร์พอยโครงงาน เพาว์เวอร์พอย
โครงงาน เพาว์เวอร์พอย
 
โครงงาน53
โครงงาน53โครงงาน53
โครงงาน53
 
โครงงานเชียงคานในวันนี้กับวิถีที่เปลี่ยนไป ผลกระทบจากกระแสโลกาภิวัตน์
โครงงานเชียงคานในวันนี้กับวิถีที่เปลี่ยนไป ผลกระทบจากกระแสโลกาภิวัตน์โครงงานเชียงคานในวันนี้กับวิถีที่เปลี่ยนไป ผลกระทบจากกระแสโลกาภิวัตน์
โครงงานเชียงคานในวันนี้กับวิถีที่เปลี่ยนไป ผลกระทบจากกระแสโลกาภิวัตน์
 
โครงร่างโครงงาน กรุความรู้...สังคมศึกษา
โครงร่างโครงงาน กรุความรู้...สังคมศึกษาโครงร่างโครงงาน กรุความรู้...สังคมศึกษา
โครงร่างโครงงาน กรุความรู้...สังคมศึกษา
 
โครงการเก็บขยะในโรงเรียนสู่จิตสำนึกต่อชุมชน
โครงการเก็บขยะในโรงเรียนสู่จิตสำนึกต่อชุมชนโครงการเก็บขยะในโรงเรียนสู่จิตสำนึกต่อชุมชน
โครงการเก็บขยะในโรงเรียนสู่จิตสำนึกต่อชุมชน
 
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขโครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข
โครงงานคุณธรรม สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข
 
ศาสนาและหน้าที่พลเมือง สค31002
ศาสนาและหน้าที่พลเมือง สค31002ศาสนาและหน้าที่พลเมือง สค31002
ศาสนาและหน้าที่พลเมือง สค31002
 
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บทรูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
 

Similar a โครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา

แบบสอบถามการใช้โทรศัพท์มือถือ
แบบสอบถามการใช้โทรศัพท์มือถือแบบสอบถามการใช้โทรศัพท์มือถือ
แบบสอบถามการใช้โทรศัพท์มือถือ
chaimate
 
โครงงานกระถางรีไซเคิล สมบูรณ์
โครงงานกระถางรีไซเคิล สมบูรณ์โครงงานกระถางรีไซเคิล สมบูรณ์
โครงงานกระถางรีไซเคิล สมบูรณ์
พัน พัน
 
โครงการช่วยเหลือ เจือปัน
โครงการช่วยเหลือ เจือปันโครงการช่วยเหลือ เจือปัน
โครงการช่วยเหลือ เจือปัน
พัน พัน
 
โครงการปันน้ำใจ
โครงการปันน้ำใจโครงการปันน้ำใจ
โครงการปันน้ำใจ
พัน พัน
 
โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง
โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง
โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง
Bunnaruenee
 
โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง
โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง
โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง
Bunnaruenee
 
โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง
โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง
โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง
Bunnaruenee
 
โรงเรียนบ้านดงหวาย
โรงเรียนบ้านดงหวายโรงเรียนบ้านดงหวาย
โรงเรียนบ้านดงหวาย
peerapong715
 
โรงเรียนบ้านดงหวาย
โรงเรียนบ้านดงหวายโรงเรียนบ้านดงหวาย
โรงเรียนบ้านดงหวาย
peerapong14
 
โรงเรียนบ้านดงหวาย
โรงเรียนบ้านดงหวายโรงเรียนบ้านดงหวาย
โรงเรียนบ้านดงหวาย
peerapong715
 

Similar a โครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา (20)

IS โครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
IS โครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเราIS โครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
IS โครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
 
Isโครงการหมาน้อยร้อยฝันแก้ไข
Isโครงการหมาน้อยร้อยฝันแก้ไขIsโครงการหมาน้อยร้อยฝันแก้ไข
Isโครงการหมาน้อยร้อยฝันแก้ไข
 
แบบสอบถามการใช้โทรศัพท์มือถือ
แบบสอบถามการใช้โทรศัพท์มือถือแบบสอบถามการใช้โทรศัพท์มือถือ
แบบสอบถามการใช้โทรศัพท์มือถือ
 
โครงงานกระถางรีไซเคิล สมบูรณ์
โครงงานกระถางรีไซเคิล สมบูรณ์โครงงานกระถางรีไซเคิล สมบูรณ์
โครงงานกระถางรีไซเคิล สมบูรณ์
 
โครงการช่วยเหลือ เจือปัน
โครงการช่วยเหลือ เจือปันโครงการช่วยเหลือ เจือปัน
โครงการช่วยเหลือ เจือปัน
 
โครงการ Give to you
โครงการ Give to youโครงการ Give to you
โครงการ Give to you
 
บทที่ 1บทนำ
บทที่ 1บทนำบทที่ 1บทนำ
บทที่ 1บทนำ
 
โครงการปันน้ำใจ
โครงการปันน้ำใจโครงการปันน้ำใจ
โครงการปันน้ำใจ
 
สวดมนต์ประจำสัปดาห์
สวดมนต์ประจำสัปดาห์สวดมนต์ประจำสัปดาห์
สวดมนต์ประจำสัปดาห์
 
สวดมนต์ประจำสัปดาห์
สวดมนต์ประจำสัปดาห์สวดมนต์ประจำสัปดาห์
สวดมนต์ประจำสัปดาห์
 
โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง
โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง
โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง
 
โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง
โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง
โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง
 
โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง
โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง
โครงงานข้าวต้มมัดฝอยทอง
 
โครงการช่วยเหลือเจือปัน
โครงการช่วยเหลือเจือปันโครงการช่วยเหลือเจือปัน
โครงการช่วยเหลือเจือปัน
 
โครงการปันน้ำใจให้ผู้ป่วย
โครงการปันน้ำใจให้ผู้ป่วยโครงการปันน้ำใจให้ผู้ป่วย
โครงการปันน้ำใจให้ผู้ป่วย
 
โรงเรียนบ้านดงหวาย
โรงเรียนบ้านดงหวายโรงเรียนบ้านดงหวาย
โรงเรียนบ้านดงหวาย
 
โรงเรียนบ้านดงหวาย
โรงเรียนบ้านดงหวายโรงเรียนบ้านดงหวาย
โรงเรียนบ้านดงหวาย
 
โรงเรียนบ้านดงหวาย
โรงเรียนบ้านดงหวายโรงเรียนบ้านดงหวาย
โรงเรียนบ้านดงหวาย
 
Portfolio 01
Portfolio 01Portfolio 01
Portfolio 01
 
Protfolio.pdf
Protfolio.pdfProtfolio.pdf
Protfolio.pdf
 

Más de Iam Champooh

บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Iam Champooh
 
โครงการ Is3
โครงการ Is3โครงการ Is3
โครงการ Is3
Iam Champooh
 
ทร พย ส_นทางป_ญญา
ทร พย ส_นทางป_ญญาทร พย ส_นทางป_ญญา
ทร พย ส_นทางป_ญญา
Iam Champooh
 
ทร พย ส_นทางป_ญญา
ทร พย ส_นทางป_ญญาทร พย ส_นทางป_ญญา
ทร พย ส_นทางป_ญญา
Iam Champooh
 
ผลวิจัยเผย เกมที่ยากไปส่งผลให้คนเล่นก้าวร้าวขึ้น
ผลวิจัยเผย เกมที่ยากไปส่งผลให้คนเล่นก้าวร้าวขึ้นผลวิจัยเผย เกมที่ยากไปส่งผลให้คนเล่นก้าวร้าวขึ้น
ผลวิจัยเผย เกมที่ยากไปส่งผลให้คนเล่นก้าวร้าวขึ้น
Iam Champooh
 

Más de Iam Champooh (13)

Ulo กล้องวงจรปิดนกฮูก ที่คุณจะต้องตกหลุมรัก
Ulo กล้องวงจรปิดนกฮูก ที่คุณจะต้องตกหลุมรักUlo กล้องวงจรปิดนกฮูก ที่คุณจะต้องตกหลุมรัก
Ulo กล้องวงจรปิดนกฮูก ที่คุณจะต้องตกหลุมรัก
 
พร้อมหรือยัง เครื่องซักผ้าอัจฉริยะ กำลังจะบุกบ้านคุณแล้ว
พร้อมหรือยัง เครื่องซักผ้าอัจฉริยะ กำลังจะบุกบ้านคุณแล้วพร้อมหรือยัง เครื่องซักผ้าอัจฉริยะ กำลังจะบุกบ้านคุณแล้ว
พร้อมหรือยัง เครื่องซักผ้าอัจฉริยะ กำลังจะบุกบ้านคุณแล้ว
 
คลาสและการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุเบื้องต้น2
คลาสและการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุเบื้องต้น2คลาสและการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุเบื้องต้น2
คลาสและการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุเบื้องต้น2
 
โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเราโครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
 
PPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
PPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเราPPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
PPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
 
งาน
งานงาน
งาน
 
บทที่ 3-วิธีการดำเนินงาน
บทที่ 3-วิธีการดำเนินงานบทที่ 3-วิธีการดำเนินงาน
บทที่ 3-วิธีการดำเนินงาน
 
บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
โครงการ Is3
โครงการ Is3โครงการ Is3
โครงการ Is3
 
IT NEWS
IT NEWSIT NEWS
IT NEWS
 
ทร พย ส_นทางป_ญญา
ทร พย ส_นทางป_ญญาทร พย ส_นทางป_ญญา
ทร พย ส_นทางป_ญญา
 
ทร พย ส_นทางป_ญญา
ทร พย ส_นทางป_ญญาทร พย ส_นทางป_ญญา
ทร พย ส_นทางป_ญญา
 
ผลวิจัยเผย เกมที่ยากไปส่งผลให้คนเล่นก้าวร้าวขึ้น
ผลวิจัยเผย เกมที่ยากไปส่งผลให้คนเล่นก้าวร้าวขึ้นผลวิจัยเผย เกมที่ยากไปส่งผลให้คนเล่นก้าวร้าวขึ้น
ผลวิจัยเผย เกมที่ยากไปส่งผลให้คนเล่นก้าวร้าวขึ้น
 

โครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา

  • 1. โครงการ เรื่อง จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา จัดทําโดย 1. นายจิตติ ทุมเชียงลา เลขที่ 1 2. นางสาวไอรินทร์ นิธิภัทร์พรปัญญา เลขที่ 14 3. นางสาวปณิดา ธนกิจ เลขที่ 15 4. นางสาวลาภิศ อุทาทิย์ เลขที่ 18 5. นางสาวสุปราณี บุญมี เลขที่ 19 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 เสนอ คุณครูทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม รายวิชา I30903 IS3 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์กาญจนบุรี ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558
  • 2. ก กิตติกรรมประกาศ โครงการนี้ส่วนหนึ่งของรายวิชาIS3ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เพื่อช่วยทาให้วัดมีความสะอาดสวยงามน่าเข้ามาทาบุญ และได้จัดทาโครงการ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม โดย ทากิจกรรมผ่านกิจกรรมจิตอาสาเพื่อให้นักเรียนมีคุณธรรม และสามารถดารงชีวิตอยู่ในสังคม อยู่ได้โดยสงบสุข ทั้งนี้ ในรายงานนี้มี เนื้อหา ประกอบด้วยการดาเนินกิจกรรมจิตอาสาในโครงการจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา ผู้จัดทาได้เลือกหัวข้อนี้ในการทากิจกรรมจิตอาสาเนื่องมาจากเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ในการที่จะช่วยเหลือสังคม ผู้จัดทาต้องขอขอบคุณ คุณครูทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยมผู้ให้ความรู้ และ แนวทางการศึกษา คุณเดชชนะ สัมมาทิตฐิที่ให้ความช่วยเหลือในเรื่องการเดินทางไป-กลับ ระหว่างห้วยสะพานและวัดบ้านหลุมหิน คุณปาลีรัตน์ นิธิภัทร์พรปัญญา ที่ให้ความช่วยเหลือในเรื่องของการทาความสะอาดบริเวณศาลาวัด และขอขอบคุณคุณเสวย สัมมาทิตฐิที่ให้ความอนุเคราะห์ในด้านอุปกรณ์การทาความสะอาด หวังว่ารายงานฉบับนี้ จะให้ความรู้ และ เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน หากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้จัดทาขอรับไว้ด้วยความขอบพระคุณยิ่ง และหากมีข้อข้อผิดพลาดประการใดผู้จัดทาขออภัย มาณที่นี้ ด้วย คณะผู้จัดทา
  • 3. ข บทคัดย่อ เรื่อง จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ IS3 ผู้จัดทํา นายจิตติ ทุมเชียงลา นางสาวไอรินทร์ นิธิภัทร์พรปัญญา นางสาวปณิดา ธนกิจ นางสาวลาภิศ อุทาทิพย์ นางสาวสุปราณี บุญมี ครูที่ปรึกษา ครูทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม สถานศึกษา โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี ปีการศึกษา 2558
  • 4. สารบัญ เรื่อง หน้า กิตติกรรมประกาศ.....................................................................................................................ก บทคัดย่อ....................................................................................................................................ข บทที่ 1 บทนา..............................................................................................................................1 หลักการและเหตุผล................................................................................................................1 การบูรณาการกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง.............................................................................1 วัตถุประสงค์ของโครงการ......................................................................................................1 สถานที่ดาเนินการ...................................................................................................................2 ขั้นตอนการดาเนินงาน............................................................................................................2 ระยะเวลาดาเนินงาน...............................................................................................................2 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ.....................................................................................................2 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง ..........................................................................................................3 จิตอาสา...................................................................................................................................3 วัด...........................................................................................................................................4 ข้อควรปฏิบัติในการไปวัดไทย...............................................................................................5 ความสาคัญของพระพุทธศาสนาต่อสังคมไทย........................................................................5 บทที่ 3 วิธีการดาเนินงาน.........................................................................................................15 วัสดุอุปกรณ์..........................................................................................................................15 วิธีการดาเนินงาน..................................................................................................................16
  • 5. บทที่ 4 ผลการดาเนินงาน..........................................................................................................19 บทที่ 5 สรุปผลและอภิปราย.....................................................................................................20 อภิปรายผลการดาเนินงาน.....................................................................................................21 ข้อเสนอแนะ.........................................................................................................................21 ภาคผนวก.................................................................................................................................22 บรรณานุกรม.............................................................................................................................ค
  • 6. สารบัญรูปภาพ รูปภาพ หน้า 3.1เดินเข้าไปที่วัดห้วยสะพาน………………………….………...…………………15 3.2 เดินเข้าไปที่วัดห้วยสะพาน………………….………………...…………………15 3.3 รอน้ามารับไปวัดบ้านหลุมหิน…………...………………………………………15 3.4 เดินทางไปวัดบ้านหลุมหิน………………………………….…………………………16 .3.5 เริ่มทาความสะอาด…………………………………………………….………………16 3.6 เริ่มทาความสะอาด…………………………………………………….………………16 3.7 เริ่มทาความสะอาด…………………………………………………….………………16 3.8 เดินทางกลับบ้านด้วยรถของแม่ไอรินทร์……………………………………………..17 3.9 จัดทาเว็บไซต์…………………………………………………………………………..17
  • 7. 1 บทที่ 1 บทนํา หลักการและเหตุผล การฝึกเข้าวัดทาบุญช่วยกิจกรรมสาธารณะถึงแม้ จะไม่การทากิจกรรมเพื่อนามาทาโครงงานแต่เป็นกิจกรรมที่ทาได้ในทุกวัน ปัจจุบันวัยรุ่นไทยไม่ใส่ใจที่จะอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยอันดีงาม การช่วยปลูกฝั่งสิ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่ดีและสมควรทาเพื่อนรักษาวัฒนธรรมประเทศของเรา คณะผู้จัดทาเล็งเห็นความสาคัญจึงอยากมีส่วนช่วยในการสร้างจิตสานึกเพื่อสังคมที่ดี จึงได้จัดทาโครงการขึ้นถึงจะเป็นส่วนเล็กๆที่ได้มีส่วนในการทาสิ่งดีๆเพื่อสังคม แต่ในอนาคต ถ้ามีบุคคลหรือผู้สนใจมาสานต่อก็จะเป็นการช่วยกันสืบสานวัฒนธรรมที่ดีงาม และได้บุญด้วย การบูรณาการกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1. ความพอประมาน ใช้อุปกรณ์ทาความสะอาดที่มีในบ้าน 2. ความมีเหตุผล เลือกวัดที่จะไปบาเพ็ญประโยชน์ 3. การทีภูมิคุ้มกันที่ดี ทาให้ที่วัดมีความสะอาดน่าเข้า ประชาชนละแวกใกล้ๆจะได้เข้ามาทาบุญเยอะๆ เงื่อนไข 1. เงื่อนไขความรู้ รับรู้ถึงปัญหาความสกปรกภายในวัด 2. เงื่อนไขคุณธรรม เป็นการทาความสะอาดให้ปราศจากเชื้อโรค วัตถุประสงค์ของโครงการ 1. เพื่อช่วยทาให้วัดมีความสะอาดสวยงาม น่าเข้ามาทาบุญ 2. เพื่อให้ช่วยกันรักษาความสะอาดภายในวัด
  • 8. 2 สถานที่ดําเนินการ วัดบ้านหลุมหินตาบลบ้านหลุมหินอาเภอพนมทวนจังหวัดกาญจนบุรี ขั้นตอนการดําเนินงาน 1. สมาชิกกลุ่มประชุมวางแผนการทาโครงการ 2. หาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่วัดที่จะไปทากิจกรรม 3. นัดแนะสถานที่และวันเวลาที่จะไปทากิจกรรม 4. จัดหาอุปกรณ์ทาความสะอาด 5. ไปทากิจกรรมสาธารณะประโยชน์ที่วัดบ้านหลุมหินอ.พนมทวน 6. สรุปโครงการ 7. จัดทาเว็บไซต์เผยแพร่โครงการ ระยะเวลาดําเนินงาน วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2558 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. วัดมีความสะอาดสวยงามน่าเข้ามาทาบุญ 2. ทุกคนได้รับรู้โครงการนี้
  • 9. 3 บทที่2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง จิตอาสา หรือ จิตสาธารณะ ( public consciousness หรือ Public mind) หมายถึง จิตสานึกเพื่อส่วนรวม เพราะคาว่า “สาธารณะ” คือสิ่งที่มิได้เป็นของผู้หนึ่งผู้ใด จิตสาธารณะ จึงเป็นความรู้สึกถึงการ เป็นเจ้าของในสิ่งที่เป็นสาธารณะ ในสิทธิและหน้าที่ที่จะดูแล และ บารุงรักษาร่วมกัน จิตอาสา หรือ มีจิตสาธารณะ ยังหมายรวมถึง จิตของคน ที่รู้จักความเสียสละ ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการ ทาประโยชน์ เพื่อส่วนรวม จะช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม ช่วยกันพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเป็นหลักการในการดาเนินชีวิต ช่วยแก้ปัญหาและสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์สุขแก่สังคม เช่น การช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมโดยการไม่ทิ้งขยะลงในแหล่งน้า การดูแลรักษาสาธารณสมบัติ เช่น โทรศัพท์สาธารณะ หลอดไฟฟ้าที่ให้ความสว่างตามถนนหนทาง แม้แต่การประหยัดน้าประปาหรือไฟฟ้า ที่เป็นของส่วนรวม โดยใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าตลอดจนช่วยกันดูแลรักษา ให้ความช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก หรือผู้ที่ร้องขอความช่วยเหลือเท่าที่จะทาได้ ตลอดจนร่วมมือกระทาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา หรือช่วยกันแก้ปัญหาแต่ต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย เพื่อรักษาประโยชน์ส่วนรวม ราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายของจิตสานึกทางสังคม หรือจิตสานึกสาธารณะว่าคือการตระหนักรู้และคานึงถึงส่วนรวมร่วมกัน หรือการคานึงถึงผู้อื่นที่ร่วมสัมพันธ์เป็นกลุ่มเดียวกัน สานักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้ให้ความหมายว่า การรู้จักเอาใจใส่ เป็นธุระและเข้าร่วมในเรื่องของส่วนรวมที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ มี ความสานึกและยึดมั่นในระบบคุณธรรม และ จริยธรรมที่ดีงามละอายต่อสิ่งผิด เน้นความเรียบร้อย ประหยัดและมีความสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ
  • 10. 4 สรุป จิตอาสา หรือจิตสาธารณะ หรือจิตสานึกสาธารณะ คือ จิตสานึก(Conscious) เป็นการตระหนักรู้ตัวหรือเป็นจิตส่วนที่รู้ตัวรู้ว่าทาอะไรอยู่ที่ไหน เป็นอย่างไรขณะที่ตื่นอยู่นั่นเอง ส่วน คาว่าสาธารณะ ( Public ) เป็น การแสดงออกเพื่อสังคมส่วนรวม เป็นการบริการชุมชนทาประโยชน์เพื่อสังคมถ้าเป็นสิ่งของก็ต้องใช้ประโยชน์ร่วมกัน เมื่อนาสองคา มารวม หมายถึงการตระหนักรู้ตน ที่จะทาสิ่งใดเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม วัด คือคาเรียก สถานที่สาหรับประกอบกิจกรรมทางศาสนาของ ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ในประเทศไทย , กัมพูชา และ ลาว ภายในวัดจะมี กุฏิ ซึ่งใช้เป็นเป็นที่อาศัยของนักบวชในศาสนาพุทธซึ่งก็คือ พระสงฆ์อีกทั้งยังมีเจดีย์ พระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ เมรุ ซึ่งใช้สาหรับประกอบศาสนพิธีต่างๆ เช่นการเวียนเทียน การสวดมนต์ การทาสมาธิ วัดโดยส่วนใหญ่นิยมแบ่งเขตภายในวัดออกเป็นสองส่วนคือพุทธาวาสและ สังฆาวาส โดยส่วน พุทธาวาส จะเป็นที่ตั้ง ของสถูปเจดีย์ อุโบสถ สถานที่ประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา และ ส่วนสังฆาวาส จะเป็นส่วนกุฎิสงฆ์ สาหรับพระภิกษุสงฆ์ สามเณร จาพรรษา และในปัจจุบันแทบทุกวัดจะเพิ่มส่วนฌาปนสถานเข้าไปด้วย เพื่อประโยชน์ในด้านการประกอบพิธีทางศาสนาของชุมชน เช่น การฌาปนกิจศพ โดยในอดีตส่วนนี้จะเป็นป่าช้าซึ่งอยู่ติด หรือใกล้วัดตามธรรมเนียมของแต่ละท้องถิ่น ซึ่ งส่วนใหญ่ กลุ่มฌาปนสถานในวัดพุทธศาสนาในประเทศไทยจะตั้งอยู่บนพื้นที่ ๆ เป็นป่าช้าเดิม ปัจจุบันวัดไทยในชนบทยังคงเป็นศูนย์รวมของคนในชุมชน ซึ่งต่างจากในเมืองใหญ่ที่วัดกลายเป็นเพียงสถานที่จาพรรษาของพระสงฆ์และเพื่อประกอบพิธีท างศาสนาเท่านั้น
  • 11. 5 พระอารามหลวง วัดในประเทศไทย แบ่งได้เป็นสองประเภทใหญ่ ได้แก่ พระอารามหลวงหรือ วัดหลวง คือวัดที่พระเจ้าแผ่นดินทรงสร้างหรือทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เข้าจานวนในบัญชีเป็นพระอารามหลวงและวัดราษฎร์ คือวัดที่ได้รับพระราชทานที่วิสุงคามสีมาแต่มิได้เข้าบัญชีเป็นพระอารามหลวง หรือ วัดที่พุทธศาสนิกร่วมใจบริจาคทรัพย์และที่ดินถวายเป็นสังฆาราม การจัดลาดับชั้นของพระอารามหลวงมีดังต่อไปนี้ 1 พระอารามหลวงชั้นเอกมีสามชนิด ได้แก่ราชวรมหาวิหารราชวรวิหาร และวรมหาวิหาร 2. พระอารามหลวงชั้นโทมีสี่ชนิด ได้แก่ราชวรมหาวิหารราชวรวิหาร วรมหาวิหาร และวรวิหาร 3. พระอารามหลวงชั้นตรี มีสามชนิดได้แก่ราชวรวิหารวรวิหารและสามัญ (ไม่มีสร้อยต่อท้าย) ข้อควรปฏิบัติในการไปวัดไทย ควรแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อยและสาหรับการเตรียมอาหารไปถวายพระภิกษุ ต้องเป็นอาหารที่สุกแล้วหรือจาพวกผลไม้อย่าถวายอาหารที่สุก ๆ ดิบๆ และควรระมัดระวังเนื้อสัตว์ต้องห้าม เช่น เนื้อมนุษย์ เนื้อช้าง เนื้อม้า เนื้อสุนัข เนื้อราชสีห์ เนื้องู เนื้อเสือโคร่ง เนื้อเสือเหลือง เนื้อเสือดาว เนื้อหมี ไปถวายพระภิกษุ เพราะ เป็นเนื้อต้องห้ามสาหรับพระภิกษุ และสุดท้าย ไม่ควรนาเด็กอ่อนไปวัดด้วย เพราะเด็กอาจจะร้องไห้สร้างความราคาญแก่ผู้อื่นได้ ความสําคัญของพระพุทธศาสนาต่อสังคมไทย มีดังนี้
  • 12. 6 1. พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ชาวไทยส่วนใหญ่นับถือ ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ร้อยละ 95 นับถือพระพุทธศาสนาสืบต่อมาจากบรรพบุรุษไทย นับตั้งแต่ไทยมีประวัติศาสตร์ชัดเจน ชาวไทยก็นับถือพระพุทธศาสนา อยู่แล้ว หลักฐานโบราณ ได้แก่โบราณสถานที่ เป็นศาสนสถาน โบราณวัตถุ เช่น พระธรรมจักร ใบเสมา พระพุทธรูป ศิลาจารึก เป็นต้น แสดงว่าผู้คนในดินแดนไทยรับนับถือพระพุทธศาสนา(ทั้งนิกายเถรวาท และมหายาน) มาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 12กล่าวได้ว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจาชาติไทยมาช้านานแล้ว 2. พระพุทธศาสนาเป็นรากฐานสาคัญ ของวัฒนธรรมไทย เนื่องจากชาวไทยนับถือ พระพุทธศาสนา มาช้านา จนหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ได้หล่อหลอม ซึมซับ ลงในวิถีไทย กลายเป็นรากฐานวิถีชีวิตของคนไทยในทุกด้าน ทั้งด้านวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ภาษาขนบธรรมเนียมประเพณีและศีลธรรม ดังนี้ 1) วิถีชีวิตของคนไทยคนไทยมีวิถีการดาเนินชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ได้แก่ การแสดงความเคารพการมีน้าใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ความกตัญญูกตเวที การไม่อาฆาตหรือมุ่งร้ายต่อผู้อื่น ความอดทน และ การเป็นผู้มีอารมณ์แจ่มใส รื่นเริง เป็นต้น ล้วนเป็นอิทธิพลจากหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น ซึ่งได้หล่อหลอมให้คนไทยมีลักษณะเฉพาะตัว เป็นเอกลักษณ์ของคนไทยที่นานาชาติยกย่องชื่นชม 2) ภาษาและวรรณกรรมไทยภาษาทางพระพุทธศาสนาเช่นภาษาบาลี มีอยู่ในภาษาไทยจานวนมากวรรณกรรม ไทย หลายเรื่อง มีที่มาจากหลักธรรม ทาง พระพุทธศาสนา เช่น ไตรภูมิกถา ในสมัยสุโขทัย กาพย์มหาชาติ นันโทปนันทสูตรคาหลวง พระมาลัยคาหลวง ปุณโณวาทคาฉันท์ ในสมัย อยุธยา เป็นต้น
  • 13. 7 3) ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ประเพณีไทยที่มาจากความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนามีอยู่มากมาย เช่น การอุปสมบท ประเพณีทอดกฐิน ประเพณีแห่เทียนพรรษา ประเพณีชักพระ เป็นต้น กล่าวได้ว่าขนบธรรมเนียมประเพณี ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนามีความผูกพันกับคนไทยตั้งแต่เกิดจนตาย 4) ศิลปกรรมไทย พระพุทธศาสนา เป็นบ่อเกิดของศิลปะแขนงต่างๆ วัด เป็นแหล่งรวมศิลปกรรมไทยทางด้านสถาปัตยกรรม เช่นรูปแบบการเสร้างเจดีย์ พระปรางค์วิหาร ที่งดงามมากเช่นวัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว) กรุงเทพมหานครประติมากรรม ได้แก่งานปั้นและหล่อพระพุทธรูป เช่น พระพุทธลีลาในสมัยสุโขทัย พระพุทธชินราช วัดพระศรีมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก จิตรกรรม ได้แก่ ภาพวาดฝาผนังและเพดานวัดต่างๆ เช่นจิตรกรรมฝาผนัง วัดเบญจมบพิตรกรุงเทพมหานคร 3. พระพุทธศาสนาเป็นศูนย์รวมจิตใจของสังคมไทย พระสงฆ์เป็นผู้นาทางจิตใจของประชาชน เป็นศูนย์กลางของความเคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ให้คนไทยประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม นอกจากนี้ วัดยังเป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นสถานที่ประกอบกิจกรรมของชุมชน สร้างความสามัคคีในชุมชน 4. พระพุทธศาสนา เป็นหลักในการ พัฒนาในการพัฒนาชาติไทย หลักธรรมทางพระพุทธศาสนามุ่งเน้นการพัฒนาคนให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพทั้งด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิตใช้คุณธรรม และสติปัญญาในการดาเนินชีวิตเพื่อพัฒนาตนเองและ ร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาชุมชนพัฒนาสังคมและพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้พระสงฆ์หลายท่านยังมีบทบาทสาคัญในการเป็นผู้นาชุมชนพัฒนาในด้านต่างๆ เช่น การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การอนุรักษ์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่น
  • 14. 8 วัดเป็นแหล่งการเรียนรู้ ของสังคมไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ชาวไทยได้บวชเรียนในพระพุทธศาสนา ได้ฝึกฝนอบรมตนให้เป็นคนดี เป็นกาลังสาคัญในการพัฒนาชาติไทย 5. พระพุทธศาสนาเป็นหนึ่งในสามสถาบันหลักของชาติไทย สถาบันหลักของชาติไทยที่คนไทยทุกคน ให้ความเคารพนับถือ ประกอบด้วยชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ รัฐธรรมนูญไทยได้กาหนดให้พระมหากษัตริย์ ทรงเป็น พุทธมามกะ หมายถึง พระประมุขของชาติไทยที่ทรงนับถือพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกับประชาชนส่วนใหญ่ของประเ ทศและยังเป็นอัครศาสนูปถัมภกคือทรงให้ความอุปถัมภ์ศาสนาทุกศาสนาในประเทศไทย ความสาคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นสถาบันหลักของสังคมไทย สถาบันพระพุทธศาสนาเป็นสถาบันหลักสถาบันหนึ่งของสังคมไทย คนไทยต่างให้การยอมรับนับถือมาตั้งแต่โบราณกาลและมีการสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภก เมื่อพระพุทธศาสนาได้เข้ามาประดิษฐานมั่นคงในสังคมไทย วัดและพระสงฆ์มี บทบาทเกี่ยวข้องกับการดาเนินชีวิตของคนไทย วัดจึงได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคม วัดเป็นศูนย์กลางของการอบรมสั่งสอนจริยธรรมเป็นสถาบันสาคัญทั้งในด้านการศึกษา สังค ม และ เป็นบ่อเกิดของศิลปะ สาขาต่างๆ ส่วนพระสงฆ์ผู้ทาหน้าที่สืบทอดพระพุทธศาสนาก็ได้รับการยกย่องในสังคม ในฐานะเป็นผู้ทรงคุณธรรมควรแก่การเคารพ และเชื่อฟังซึ่งสรุปได้ดังนี้
  • 15. 9 ด้านการศึกษาวัดเป็นสถานศึกษาเล่าเรียน โดยพระภิกษุสงฆ์ทาหน้าที่เป็นผู้อบรมสั่งสอนให้ความรู้ แม้ในปัจจุบัน พระสงฆ์ก็ยังคงทาหน้าที่สอนพระพุทธศาสนาในโรงเรียน ด้านสังคม วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชนเป็นที่ชุมนุมเพื่อทาบุญฟังพระธรรมเทศนา ตลอดจนการพบปะสังสรรค์ พระสงฆ์เป็นตัวแทนของสถาบันพระพุทธศาสนาที่มีบทบาทสาคัญในการเป็นผู้นาทางจิตใจขอ งประชาชน ด้านศิลปกรรม วัดเป็นที่รวมแห่งศิลปกรรมประเภทต่างๆ เช่น ประติมากรรมปูนปั้น ศิลปกรรมแกะสลักไม้จิตรกรรมฝาผนังตลอดถึงถาวรวัตถุต่างๆ ที่ศิลปินไทยได้ถ่ายทอดไว้ที่โบสถ์ วิหารเจดีย์ องค์พระพุทธรูปซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง ศรัทธาที่มีต่อพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาในฐานะเป็นสภาพแวดล้อมที่กว้างขวางและครอบคลุมสังคมไทย จากการศึกษาประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย พบว่าประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของดินเแดนที่เรียกว่าสุวรรณภูมิ เป็นที่ตั้งมั่นของพระพุทธศาสนามาเป็นเวลายาวนาน คาสอนของพระพุทธศาสนาได้เผยแผ่ไปทุกภูมิภาคของประเทศและสัมพันธ์กับวิถีชีวิตของผู้คน จนก่อให้เกิดขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรมศิลปกรรม สถาปัตยกรรมอันเนื่องด้วยพระพุทธศาสนา จนกลายมาเป็นสมบัติของชาติ ให้พุทธศาสนิกชนได้เกิดความภาคภูมิใจ พระพุทธศาสนาจึงมีความสัมพันธ์กับชีวิตประจาวันอย่างใกล้ชิดอยู่แล้วโดยปริยาย แม้มรรยาทต่าง ๆ ที่คนไทยถูกสอนให้เคารพอาวุโส มีการยืดมั่น และ ปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามขนบธรรมเนียม ประเพณีก็ล้วนมาจากหลักเกณฑ์ทางพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น
  • 16. 10 ความสาคัญของวัดที่มีต่อวิถีชีวิตของคนไทย สังคมไทย เคารพ ศรัทธาต่อพระภิกษุมาก เนื่องเพราะเชื่อว่า พระภิกษุ นั้นเป็นผู้มีความรู้มากกว่าฆราวาสเป็นผู้ทรงศีลย่อมพูดแต่สิ่งเท็จจริงและเป็นครูบาอาจารย์ ความสัมพันธ์ระหว่างคนในชุมชนที่มีต่อวัดจึงผูกพันแนบแน่นกับวิถีชีวิตของ ทุกคนนับแต่เกิดจนตายคาสั่งสอนจึงได้รับความเชื่อถืออย่างไร้ความคลางแคลงใจ ดังนั้นพระสงฆ์จึงกลายเป็นที่พึ่งของสังคมในทุกๆเรื่องไม่ว่าในทางที่เป็นมงคลและอัปมงคล ส่วน วัดนั้นเป็นสถานที่รับใช้บริการงานประเพณีการทาบุญต่างๆเพื่อให้เกิดกุศลบุญแก่ ฆราวาสเนื่องในวันสาคัญทางศาสนาซึ่งมีอยู่แทบตลอดทั้งปี รวมทั้งเป็น สถานที่ให้การศึกษาแก่ชุมชนนับแต่การบวชเณรจนถึงบวชเป็นพระภิกษุ สถานที่ให้ความสงบเยือกเย็นทางใจเช่น การแสดงพระธรรมเทศนา การฝึกปฏิบัติ ธรรม สมาธิ เป็นสถานที่ชุมนุมของสังคมทุกกาลวาระเช่นการประชุมกรรมการหมู่บ้าน งานเทศกาลรื่นเริงที่มีการ ออกร้านมีมหรสพต่างๆ เป็นต้น เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมเนื่องในการตายเช่นการตั้งศพสวดพระอภิธรรม การเผาศพ ความสัมพันธ์ระหว่างวัดกับวัง พระมหากษัตริย์ในอุดมคติของสังคมไทย จะสมบูรณ์แบบได้นั้น ต้องแสดงศักยภาพของพระองค์ใน ๒ ลักษณะคือความเป็นพระจักรพรรดิราช ที่สามารถปกป้ องปวงประชาให้อยู่เย็นเป็นสุขจากศัตรู และความเป็นพระมหาธรรมราชา หมายถึง พระราชาผู้ทรงคุณธรรม
  • 17. 11 ดังนั้นพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์จึงทรงดาเนินนโยบายตามแนวความคิดดัง กล่าวนี้มาโดยตลอด โดยการสร้างบูรณปฏิสังขรณ์ วัดวาอารามต่างๆ ก็เพื่อส่งเสริมให้ภาพลักษณ์แห่ง ความเป็น “ธรรมราชา” ของพระองค์สมบูรณ์แบบขึ้น นอกเหนือจากการอาศัยศาสนามาช่วยในพิธีกรรมต่างๆนั่นเอง ความสัมพันธ์ระหว่างบ้านวัดและวัง ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยดังกล่าวมาทั้งหมดมีความเกี่ยวเนื่องกับสถาบันหลัก ๓ ประเภท คือบ้านวัดและ วังสถาบันทั้ง ๓ หน่วยนี้มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องซึ่งกันและกันตลอดเวลาโดย “วัง” นั้นอยู่ในสถานะของที่ประทับแห่งกษัตริย์ หรือผู้นาของสังคมและประเทศชาติ วังจึงเป็นเสมือนหนึ่งสัญลักษณ์แห่งศูนย์รวมในทางอาณาจักร ในขณะที่ “บ้าน” เป็นที่พักอาศัยของเหล่าทวยราษฎรเป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐาน สาหรับ “วัด” อันเป็นที่ตั้งของพุทธสถานนั้นก็จะดารงอยู่ในฐานะศูนย์รวมทางจิตใจ ที่เป็นตัวกลางเชื่อมระหว่าง “วัง” กับ “บ้าน” หรืออีกนัยยะหนึ่งระหว่าง “กษัตริย์” กับ “ราษฎร” เมื่อไทยรับเอาอิทธิพลความเชื่อในเรื่องของ “สมมุติเทพ” จากขอมเข้ามาใช้ในสังคมสมัยอยุธยา ภาพลักษณ์และบทบาทแห่งกษัตริย์ของไทย ยิ่งมีความสูงส่งและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น จนทาให้ความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันกษัตริย์กับราษฎรกลับมีช่องว่างห่างกันมาก “วัด” จึงเป็นเสมือนสายใยที่เชื่อมโยงช่องว่างดังกล่าวนั้น วัดสาคัญๆ โดยเฉพาะอย่างวัดมหาธาตุ ถูกสถาปนาขึ้น ด้วยชนชั้นปกครองทั้งสิ้น เนื่องจาก ต้องอาศัยกาลัง และทรัพย์วัสดุในการก่อสร้างจานวนมาก วัดที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างขึ้นจึงวิจิตรบรรจงงดงาม เมื่อวัดดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นศูนย์รวมในทางจิตใจของชุมชน กษัตริย์ในฐานะผู้สร้างวัด ก็ย่อมได้รับความเคารพศรัทธาและซื่อสัตย์จงรัก ภักดีจากทวยราษฎร์ในชุมชนนั้นโดยปริยายอานาจและพลังมวลชนที่กษัตริย์พึงจะได้มา
  • 18. 12 อาศัยการสื่อผ่านทางเจ้าอาวาสวัดต่างๆนี้โดยตรง นี่คือความสัมพันธ์ระหว่างความหมายของบ้านวัดและวัง วัดในสถานะที่เป็นศูนย์กลางของสังคมมีความสาคัญและบทบาทหน้าที่ดังนี้ คือ ๑.วัดในฐานะตัวแทนความเจริญและความมั่นคงของแผ่นดิน ๒.วัดในฐานะสถาบันผู้สืบทอดศาสนาให้ยั่งยืน ๓.วัดในฐานะสถานที่ให้การศึกษา ๔.วัดในฐานะที่พึ่งทางกายและใจของสังคม ๕.วัดในฐานะศูนย์รวมของศิลปกรรม บทวิเคราะห์ ในสมัยโบราณ วัดเป็นสถานที่รวมจิตใจของคนไทย และนอกจากนั้น วัดยังเป็นสถานที่ให้ความรู้แก่คนในสมัยก่อน เพราะเเต่ก่อนยังไม่มีโรงเรียน ก็เลยใช้วัดเป็นที่ให้ความรู้เเก่เด็กโดยมี พระเป็นผู้อบรมสั่งสอน และวัดยังเป็นที่ชุมนุมของคนเพื่อเป็นที่ประชุมหรือเพื่อเป็นที่ชาระจิตใจของผู้คน นับได้ว่าในสมัยก่อนวัดมีอิทธิพลมาก ต่อคนไทยจนมาถึงในยุคสมัยปัจจุบันวัดก็ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยมาช้านาน ซึ่งวัดจะเป็นที่รวบรวมคาสั่งสอนของพระพุทธเจ้าต่างๆไว้มากมายนอกจากนี้วัดก็ยังเป็นศูนย์รว มความเชื่อต่างๆทางไสยศาสตร์ ของชาวพุทธซึ่งเป็นความเชื่อของเเต่ละบุคคล ในปัจจุบันนี้ในประเทศไทยจะมีวัดต่างๆมากมาย ที่เกิดจากหลายเชื้อชาติที่เข้ามาอาศัยในประเทศไทยเช่น วัดจีน ทั้งนี้ ก็จะเกิดทั้งข้อดีเเละข้อเสียซึ่งข้อดีก็คือมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมได้ แต่ข้อเสียคือ ความขัดเเย้งของความคิดและวัฒนธรรมได้ ในฐานะที่เราเป็นทหารเราควรช่วยกันทะนุบารุงรักษาวัดให้มั่นคงอยู่คู่กับคนไทยเพื่อให้คนไทย
  • 19. 13 ได้มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ทั้งในยามทุกข์ และยามสุข ดังนั้นวัดจึงเปรียบเสมือนแหล่งรวบรวมและสร้างวัฒนธรรม ซึ่งวัฒนธรรมเป็นค่านิยมและความเชื่อที่มีร่วมกันมาอย่าช้านานซึ่งเป็นระบบที่เกิดขึ้นในสังคมแ ทบทุกสังคมของคนไทยและกลายเป็นแนวทางในการกาหนดแบบแผนพฤติกรรม บรรทัดฐานของคนไทยวัฒนธรรมจึงเป็นเสมือนบุคลิกภาพ และจิตวิญญาณของคนในสังคม ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทหาร จึงเป็นกาลังสาคัญในการรักษาวัด ซึ่งเป็นสมบัติของคนไทยไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชมในความงดงามของวัฒนธรรมของคนไทย วัดหมายถึงสถานที่ทางพระพุทธศาสนา ซึ่งปกติมีพระอุโบสถพระวิหารพระเจดีย์ รวมทั้งมีพระภิกษุสงฆ์อยู่อาศัย คาว่า “วัด” เป็นคาเรียกชื่อศาสนสถานแบบคาไทยโดยที่มาของคาว่า “วัด”นี้ ยังไม่มีข้อยุติ ด้วยบางคนอธิบายว่ามาจากคาว่า “วตวา” ในภาษาบาลี แปลว่า เป็นที่สนทนาธรรม บ้างก็ว่ามาจาก “วัตร” อันหมายถึงกิจปฏิบัติหรือหน้าที่ของพระภิกษุที่พึงกระทาหรือแปลอีกอย่างว่าการจาศีลซึ่งวัด (วัตร) ตามนัยยะนี้จึงน่าจะหมายถึงสถานที่ซึ่งพระภิกษุสงฆ์ใช้เป็นที่จาศีลภาวนา หรือสถานที่ที่พระภิกษุสงฆ์ใช้ปฏิบัติภารกิจ ที่พึงกระทานั่นเอง แต่ก็มีบางคนสันนิษฐานว่ามาจากคาว่า “วัดวา” อันหมายถึงการกาหนดขอบเขตของดินแดนที่สร้างเป็นศาสนสถาน เพราะวัดกับวามีความหมายอย่างเดียวกันคือการสอบขนาดหรือปริมาณของสิ่งต่างๆเช่น ความยาวความกว้างเป็นต้นวัดในนัยยะอย่างหลังนี้จึงหมายถึงพื้นที่ แต่เดิมครั้งพุทธกาลนั้นมีการใช้คาว่า“อาราม”เป็นคาเรียกชื่อ ศาสนสถานในทางพุทธศาสนาที่ใช้เรียกเสนาสนะที่มีผู้ศรัทธาถวายพระพุทธองค์ใน ระยะแรกๆ เช่น “ เชตวนาราม” หรือชื่อเต็มว่า “ เชตวเนอนาถบิณฑิกสสอาราเม” ซึ่งมีความหมายว่า “ สวนของอนาถบิณฑที่ป่าเชต ” หรือ “ เวฬุวนาราม ” หรือ “ บุปผาราม ” เป็นต้น
  • 20. 14 โดย “ อาราเม ” หรือ “ อาราม ” ในคาอ่านของไทยแปลว่า สวน นอกจากนี้ในเวลาต่อมายังมีคาที่ใช้เรียกอีกอย่างว่า “วิหาระ”หรือ “วิหาร” อย่างไรก็ตามก็ยังมีคาที่ให้ความหมายว่าวัดอยู่อีกชื่อหนึ่งคือ “ อาวาส ” ดังชื่อเรียกสมภารผู้ครองวัดว่า “เจ้าอาวาส”ซึ่งแปลว่าผู้เป็นใหญ่ในวัดหรือชื่อเรียกวัดเช่น เทพศิรินทราวาส ( เทพ+ศิรินทรา+ อาวาส) โดยปกติคาว่าอาวาสไม่เป็นที่นิยมใช้กันในความหมายว่าวัด ทั้งนี้เพราะนิยมนาไปใช้กับความหมายที่แคบกว่าคาว่าอาราม โดยมักให้ความหมายในเชิงที่เป็นตัวเรือนที่อยู่อาศัยมากกว่า อาวาสจึง เสมือนเป็นที่อยู่ส่วนย่อยภายในอารามที่หมายถึงพื้นที่ที่เป็นศาส สถานทั้งเขตเช่น วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพฯ พระอารามหลวงชั้นเอกชนิดราชวรวิหาร, วัดบวรนิเวศวิหารกรุงเทพฯ พระอารามหลวงชั้นเอกชนิดราชวรวิหาร ,วัดกัลยาณมิตร ธนบุรี พระอารามหลวงชั้นโทชนิดราชวรมหาวิหาร , วัดปทุมวนารามกรุงเทพฯ พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดราชวรวิหาร,วัดอินทรวิหารวัดราษฎร์
  • 21. 15 บทที่3 วิธีการดําเนินงาน วัสดุอุปกรณ์ 1. ไม้กวาดดอกหญ้า 2. สายยาง 3. ถังน้า 4. ไม้กวาดทางมะพร้าว 5. ผงซักฟอก 6. ขัน 7. ผ้าขี้ริ้ว 8. ไม้ถูพื้น 9. แปรงขัดพื้น 10. ฝอยขัดหมอ 11. ไม้ถูพื้นไล่น้า 12. เกรียง(เอาไว้ขูดน้าตาเทียน) 13. แปรงขัดส้วม
  • 22. 16 14. กล้องถ่ายรูป วิธีการดําเนินงาน 1. จัดกลุ่มเลือกหัวข้อในการดาเนินกิจกรรม 2. ลงมติเลือกหัวข้อที่จะทาคือจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา 3. วางแผนในการดาเนินการ 4. เลือกวัดที่จะไปทากิจกรรมจิตอาสา 5. นัดหมายวันเวลาสถานที่ที่จะเจอกันและนั่งรถไปพร้อมเพรียงกัน 6. ดาเนินงานตามกาหนดการที่นัดไว้ 6.1.นัดพบกันที่ บขส. เวลา 09.00น. 6.2.ขึ้นรถสาย กาญจนบุรี-สุพรรณบุรี (ฟรี เพราะเป็นญาติกับจิตติ)เวลา 10.00น. 6.3.ถึงสี่แยกห้วยสะพาน เวลา 10.20 น. 6.4.เดินเข้าไปที่วัดห้วยสะพานเพื่อเข้าห้องน้าระยะทาง 500เมตร 6.5. รอน้ามารับไปวัดบ้านหลุมหิน
  • 25. 19 8.จัดทาเว็บไซต์ บทที่4 ผลการดําเนินงาน จากการดาเนินงานตามโครงการที่กาหนดคณะผู้จัดทาไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้และการเดินทางล้วนแต่มาจากบ้านของผู้จัดทาทั้งสิ้น และมีเว็บไซต์ ผลจากการดาเนินกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเราทาให้วัดสะอาด และน่าอยู่ยิ่งขึ้น ประชาชนในระแวกวัดก็สามารถเข้ามาทาบุญตักบาตรได้อย่างสบายใจ ซึ่งการทากิจกรรมจิตอาสาเป็นการทาบุญอย่างหนึ่งคนทาก็สุขใจที่ได้ทา และผู้ที่เข้ามาทาบุญก็สุขใจ ในตอนท้ายหลวงพ่อในวัดบ้านหลุมหินได้มาให้ศีลให้พรกับคณะผู้จัดทา
  • 27. 21 อภิปรายผลการดําเนินงาน จากการดาเนินงาน ตามโครงการที่กาหนด คณะผู้จัดทา ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เนื่องจาก วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ ล้วนแต่มาจากบ้านของผู้จัดทาทั้งสิ้น และ การเดินทางก็ไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะได้รับความอนุเคราะห์จากคนขับรถประจาทาง ผลจากการดาเนินกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา ทาให้วัดสะอาดและน่าอยู่ยิ่งขึ้น ประชาชนในระแวกวัดก็สามารถเข้ามาทาบุญตักบาตรได้อย่างสบายใจ ซึ่งการทากิจกรรมจิตอาสาเป็นการทาบุญอย่างหนึ่งคนทาก็สุขใจที่ได้ทา และผู้ที่เข้ามาทาบุญก็อิ่มใจ ข้อเสนอแนะ 1. เพิ่มจานวนอาสาสมัครที่จะไปทาให้มากขึ้น 2. เพิ่มสถานที่ที่จะไปทาให้มากขึ้น 3. รับบริจาคเพื่อนาไปบารุงสถานที่
  • 32. 26
  • 33. 27
  • 34. 28
  • 40. ค บรรณานุกรม นนร.ธรรมรัตน์ แววศรี. ความสาคัญของวัดที่มีต่อวิถีชีวิตคนไทย.[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก:http : / /www. http://thammarat5263.blogspot.com/. (วันที่ค้นข้อมูล: 1กันยายน 2558). พุทธะ. ความหมายของวัด.[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.phuttha.com/ศาสนสถาน/วัด/ ความหมายของวัด. (วันที่ค้นข้อมูล:1 กันยายน 2558). วิฬาเถื่อน.วามสาคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นสถาบันหลักของสังคมไทย . [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก http://www.oknation.net/blog/preeeecha/2010/02/17/entry-3/. (วันที่ค้นข้อมูล: 1กันยายน 2558).